แอ๊ด~
นารีค่อย ๆแง้มประตูห้องของ อินทัช ลูกชายคนเดียวของเธอกับเจตออกเบา ๆ
“อ่าว แม่มีอะไรรึเปล่าครับ”
เสียงลูกชายของเธอถามขึ้น ก่อนที่ใบหน้าเล็ก ๆ จะละความสนใจออกมาจากการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ตรงหน้า แล้วมองเธอด้วยความสงสัย ลูกเธอน่ารักขนาดนี้ จะให้รู้เรื่องไม่ดีได้ยังไง แล้วอีกอย่างเธอก็เชื่อว่าสามีของเธอไม่มีทางทำอย่างที่วิว่าไว้แน่นอน
“น้องอิน ยังทำการบ้านไม่เสร็จหรอลูก แม่จะออกไปธุระแปปนึงนะ เดี๋ยวแม่จะล็อคบ้านให้ ถ้าอินทำการบ้านเสร็จก็นอนเลยนะลูก”
“ครับ แล้ววันนี้พ่อไม่กลับหรอครับ”
“พ่อเค้ารอแม่อยู่ที่ที่ต้องไปธุระหนะลูก ทำการบ้านเสร็จแล้วรีบนอนหละ มีอะไรก็โทรหาแม่”
นารียิ้มให้ลูกก่อนจะเดินออกจากห้อง แล้วปิดประตูให้เบา ๆ
“ครับแม่”
อินทัชตอบรับพร้อมมองประตูห้องนอนของตนที่ถูกปิดไปแล้ว แปลกจัง เมื่อเช้าพ่อบอกว่าจะกลับบ้านนะถ้าเขาจำไม่ผิด
แต่ชั่งเถอะ อาจจะมีธุระแบบปุบปับก็ได้
คิดได้อย่างนั้นเด็กน้อยก็ก้มหน้าก้มตาทำการบ้านต่อ โดยที่ไม่รู้เลยว่า คำพูดของพ่อเมื่อเช้า อาจจะป็นคำพูดสุดท้ายในชีวิต ที่เขาจะได้ยินจากพ่อของเขา
.
.
.
(อินทัช)
นี่ก็ผ่านมา 4 ปีแล้ว ตั้งแต่วันที่แม่บอกว่าจะออกไปทำธุระกับพ่อ ผมไม่เคยได้เห็นหน้าพ่ออีกเลย แม่บอกผมว่าพ่อผมทำความผิดที่ไม่น่าให้อภัยไว้ พ่อเลยต้องติดคุก ผมรู้สึกแย่มาก เพราะก่อนที่พ่อผมจะติดคุก ผมเสียลุงที่ผมรักไป ลุงวา แกเป็นคนที่ดีมาก แกสอนเรื่องดี ๆให้ผมหลายอย่าง ตอนนั้นมันยากมากสำหรับผม แต่ผมก็ผ่านมันมาได้ ถึงผมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปก็เถอะ
“อ่าว อิน แต่งตัวเสร็จแล้วหรอลูก มากินข้าวก่อนสิ”
เสียงแม่ผมดังขึ้นทันทีที่ผมลงจากบันได
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปกินที่โรงเรียน”
“อีกแล้วหรอ ช่วงหลัง ๆ อินไม่กินข้าวเช้าที่บ้านเลยนะ”
ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วเดินออกจากบ้านเพื่อเดินไปโรงเรียนของผมที่อยู่ห่างจากบ้านไม่มาก แม่ก็เป็นแบบนี้ ชอบบอกให้ผมกินข้าวด้วย แต่ตั้งแต่ผมถามเรื่องพ่อแล้วแม่ไม่ยอมบอก ผมก็มองแม่เหมือนเดิมอีกไม่ได้ แม่ปิดบังผม
มันเป็นอะไรที่อึดอัดเกินกว่าที่จะกินข้าวกับแม่ได้ จะว่าผมเป็นลูกที่ไม่ดีก็ได้นะ ก็คนมันอึดอัด กินไป ฟังแม่บ่นว่าเดี๋ยวจะเสียคนเหมือนพ่อไป ยังไงข้าวก็ไม่อร่อยอยู่ดี
เดินมาจนถึงหน้าปากซอยผมก็มองไปเห็นศาลพระภูมิของร้านขายของ แล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างเคย‘หวังว่าวันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี แล้วก็ไม่มีพวกคนน่ารำคาญมายุ่งกับผมนะ’