My enemy หนีตายไปพร้อมชายที่เกลียด #นกฟีนิกซ์จะจิกไลม่อน : โลมาตัวสีเขียวที่ว่ายอยู่ในทะเลสีชมพู

นิยายสั้นบู๊ แอ็คชั่น สงคราม (Action/ War) นิยายสั้นวาย ชาย-ชาย (YAOI)

โดย : โลมาตัวสีเขียวที่ว่ายอยู่ในทะเลสีชมพู
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

19:30

คฤหาสน์มาเฟียหลังใหญ่

 

วันนี้พี่ ครูซ กลับบ้านหรอครับ” ผมเอ่ยถามคนผู้เป็นแม่ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ตอนนี้

ผมชื่อ ไลม่อน เป็นลูกคนสุดท้องของบ้าน และมีครูซเป็นพี่คนโต ตอนเด็กๆ ผมติดพี่มันมาก พักหลังมานี้ตั้งแต่ที่พี่มันไปทำงานให้ป๊าก็ไม่ค่อยมีเวลามาเล่นกับผม ลำพังแค่งานที่บริษัทก็แทบจะไม่มีเวลาจะพักอยู่แล้ว

“ พี่บอกว่าคิดถึงเราน่ะ เลยจะแวะมาหา” หญิงสูงอายุตรงหน้าได้เอ่ยตอบ

“นั่นไงมาพอดีเลย” สิ้นสุดเสียงของแม่ ผมเลื่อนสายตาไปทางประตูที่พี่ชายคนโปรดกำลังเดินยิ้มเข้ามาเลยอดที่จะทักอย่างแซวๆไม่ได้

“นึกว่าจะลืมน้องไปซะแล้ว” ผมเอ่ยขึ้น

“น้องชั่วๆอย่างมึงใครจะไปลืมลง สวัสดีครับแม่” พอเอ่ยย้อนผมอย่างเอ็นดูปนจิกกัดเล็กน้อยเสร็จมันก็ไม่ลืมที่จะหันไปทักทายแม่

“ทันทีที่เจอหน้าก็ตีกันเลยนะ มากินข้าวก่อนสิแม่จัดโต๊ะเสร็จพอดี” เมื่อคนเป็นแม่เอ่ยขึ้นเช่นนั้น ผมกับพี่จึงเดินไปที่โต๊ะกินข้าวอย่างว่าง่าย
.
.
.

23:00

ณ ห้องนอนของไลม่อน

“ไลม่อน พ่อฝากกูให้มาบอกมึง ว่าพรุ่งนี้ไปดูอาวุธล็อตใหม่ที่ฮ่องกงให้หน่อย” ครูซเดินเข้ามาในห้องของผมพร้อมเอ่ยพูดขึ้น

“ทำไมเฮียไม่ไปเองอ่ะ” ผมถามออกไปด้วยความงุนงงเล็กน้อยว่าทำไมป๊าถึงให้ผมไปแทนที่จะเป็นพี่ชายคนที่ทำงานให้บริษัทป๊าอยู่ตอนนี้ แถมเขาน่าจะรู้เรื่องอะไรพวกนั้นมากกว่าผมด้วยซ้ำ

“พรุ่งนี้ติดประชุมสำคัญ กูไปไม่ได้” ความสงสัยก่อนหน้านี้ของผมได้ถูกไขให้กระจ่างหลังจากที่พี่มันเอ่ยตอบ ผมจึงตอบตกลงไปอย่าง่ายดาย

“เคๆ”

“งั้นก็รีบนอนซะ นี่ตั๋ว บินรอบเก้าโมงเช้า” หลังจากที่บอกข้อมูลการเดินทางกับผมเสร็จสรรพ คนเป็นพี่ก็เดินออกจากห้องไป
.
.
.

11:00

Hong Kong

ฮ่องกง

“ ไม่ได้มาตั้งนาน อากาศที่นี่ยังคงดีเหมือนเดิมเลยสินะ” ผมเอ่ยถาม ไอศรูย์ เพื่อนสนิทพ่วงกับตำแหน่งมือขวาของผม

“มันก็เป็นอย่างนี้ของมันทุกวันนั่นล่ะ” เพื่อนคนสนิทได้เอ่ยตอบ

ไอศูรย์มารับผมที่สนามบินเพื่อที่จะไปตรวจเช็คอาวุธล็อตใหม่ที่จะนำส่งในสิ้นเดือนนี้ หลังจากที่นั่งรถมาได้สักพักผมก็รู้สึกแปลกๆเหมือนมีคนกำลังขับรถตามมาแล้วตั้งแต่สนามบินเลยเอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้น

“ ไอศรูย์ มึงรู้สึกเหมือนกูใช่ไหมวะบีหนึ่ง”

“คันสีขาวนั่นใช่ไหมบีสอง” เราพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจ ไม่ทันได้พูดอะไรต่อคนในรถคันหลังก็ลดกระจกลงพร้อมกับชักปืนออกมา