Love talk , buy with luv ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ขาย [18+] :โลมาตัวสีเขียวที่ว่ายอยู่ในทะเลสีชมพู

นิยายสั้นวาย ชาย-ชาย (YAOI)

โดย : โลมาตัวสีเขียวที่ว่ายอยู่ในทะเลสีชมพู
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

“เข็มสั้นชี้เลข 7 เข็มยาวชี้เลข12 เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรงพอดีเป๊ะ กลับบ้านได้แล้วเว้ยพวกเรา !!! ”

เปปเปอร์ รุ่นพี่โปรแกรมเมอร์โต๊ะข้างๆผมพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดีใจสุดขีดจนน่าหมั่นไส้ ก็พี่มันเล่นนั่งมองนาฬิกามาตั้งแต่ตอนหกโมงเย็น ตั้งหน้าตั้งตารอเวลาเลิกงานขนาดนั้นไงครับ พอหนึ่งทุ่มตรงปุ๊บเก็บของกลับบ้านปั๊บ

“แหม มึงก็เตือนจนเป็นนาฬิกาบอกเวลาประจำแผนกเลยเนอะไอ้เปอร์” เจ้ขนิงเอ่ยแซวพี่เปปเปอร์ที่เอาแต่มองนาฬิกาตั้งแต่ช่วงหกโมงเย็นจนไม่เป็นอันทำงาน

“ถ้ามึงตั้งใจทำงานเท่าไอ้โนอาร์นะ ป่านนี้มึงซื้อคอนโดไปได้หลายห้องแล้วมั้ง” พี่มังกร รุ่นพี่ในแผนกที่นั่งติดโต๊ะฝั่งขวาของผมได้เอ่ยแซวขึ้น

ผมชื่อ โนอาร์ครับ อายุ 28 ปี เป็นพนักงานแผนกไอทีของบริษัทซอฟแวร์แห่งหนึ่งที่อยู่ชั้น 35ของตึกสูง 40 ชั้น ใจกลางเมือง จริงๆแล้วตึกนี้มีอยู่ 2 บริษัทน่ะครับ คือบริษัทเกมส์ ที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 2 จนถึงชั้น 20 กับบริษัทซอฟแวร์ของผมที่อยู่ชั้น 21 จนไปถึงชั้น 40

“โนอาร์ มึงจะกลับพร้อมกูเลยป่ะ งานกูเสร็จแล้วอ่ะ” ด้วยความที่คอนโดของผมกับพี่เปปเปอร์มันอยู่ตรงข้ามกัน พี่มันเลยให้ผมติดรถกลับด้วยในทุกวันหลังเลิกงาน คอยดูแลห่วงใยผมตามประสานิสัยพี่ชายที่แสนดีของพี่มันนั่นแหละครับ

“ไม่อ่ะ พี่กลับก่อนเลย วันนี้ผมมีงานต่อ” ผมเอ่ยตอบพี่เปปเปอร์

“นี่มึงทำไหวได้ไงวะไอ้โนอาร์ แค่ทำงานให้บริษัท กูก็จะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย” พี่มังกรเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้าเต็มทีพร้อมกับแววตาที่ตะโกนบอกคนทั้งโลกว่าปล่อยให้กูกลับไปนอนสักทีเถอะอะไรประมาณนั้น

“นิดหน่อยพี่ ผมก็ไม่ได้ทำถี่ขนาดนั้น”

ปกติแล้วผมทำงานที่บริษัทเป็นหลัก อาจจะมีบ้างที่ต้องไปตรวจซอฟแวร์ที่อื่นๆ เป็นจ๊อบเสริม เพราะผมต้องการเงินไปผ่อนคอนโดให้เสร็จเร็วๆ จะได้หลุดพ้นสักที
.
.
.

21:00

Signature Club สถาบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง

“ผับใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย เข้าทางไหนวะ” ผมยืนงงอยู่หน้าทางเข้า signature club สถาบันบันเทิงชื่อดังยอดนิยมของหมู่วัยรุ่นและวัยทำงานที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ซึ่งตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นที่ทำงานแห่งใหม่ของผมในคืนนี้

ท่ามกลางผู้คนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน โยกย้ายตัวไปกับเสียงเพลงด้วยความมึนเมา แต่ผมกลับมานั่งเช็คซอฟแวร์ของเครื่องเล่นเพลงในห้องใดห้องนึงของผับนี้ ดูท่าแล้วน่าจะแก้ยากเอาเรื่องเหมือนกัน ผมใช้เวลาอยู่เกือบชั่วโมงเลย เพราะระบบที่นี่ค่อนข้างจะซับซ้อน เช็คนู่นเช็คนี่ยากมากๆ เลยทำให้จากการซ่อมเครื่องเล่นเพลงโง่ๆ ในห้องที่แสนจะง่ายดายมันยากขึ้นไปเป็นสิบเท่า

“เฮ้อ ได้สักทีโว้ยยยย !!” หลังจากที่ซ่อมอยู่นานก็สามารถทำให้เครื่องเล่นเพลงสุดหรูโง่ๆ ตัวนี้มันกลับมาใช้งานได้ ผมก็เตรียมเก็บของจะกลับคอนโดแต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงใครอีกคนที่กำลังจะเดินเข้ามา

“หวัดดี วันนี้มาสเตอร์ส่งเด็กมาเร็วดีหนิ” ชายหนุ่มลูกครึ่ง อายุน่าจะราวๆ 25 ปีที่หน้าหวานค่อนไปทางสวย เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าผม เดี๋ยวนะ นี่เขาคุยกับใคร กับผม ?? น่าจะใช่แหละมั้งเพราะทั้งห้องนี้มีผมยืนอยู่กับหมอนี่แค่ 2 คน ว่าแต่เขาถามหาเด็กที่ไหน หรือจะเป็นเด็กซ่อมเครื่องเล่นเพลงวะ

“ครับ ?? เอ่อ จริงๆ ผมมานานแล้วครับกำลังจะกลับ” ด้วยความงุนงงที่มีให้กับคนตรงหน้า บวกกับตัวผมเองที่อยากกลับไปอาบน้ำนอนเต็มทีเลยรีบตอบออกไปแบบส่งๆ

“ ให้รอแค่นิดเดียวนี่คุณจะทิ้งผมกับบ้านเลยหรอครับ” คนตัวเล็กเอ่ยถามผมด้วยแววตาเยิ้มๆ ราวกับว่ากำลังอ้อนผมอยู่ คงเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้ ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาหมายถึงอะไร แค่มาซ่อมเครื่องเล่นเพลงแล้วกำลังจะกลับบ้านเนี่ย คนตรงหน้าถึงได้ทำหน้าเศร้าขนาดนั้น แต่ช่างเถอะยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่แล้ว