อ่า วันนี้มาถึงเร็วกว่าที่คิดแฮะ
ต้องขอบคุณลุงนักโทษที่ถูกขังห้องเดียวกับพ่อผมเลยนะเนี่ย
รู้งานดีจริง ๆ
เอาหละตอนนี้ผมก็คงต้องไปตรวจคนไข้พิเศษรายนี้หน่อยแล้ว
“ครับ เอาตัวนักโทษมาที่ห้อง 2 ได้เลย เดี๋ยวหมอเตรียมเครื่องมือรอ”
“ค่ะหมอ ไป อ้อ ไปพาลุงเจตมา”
“ครับป้า”
.
.
.
แกร็ก
เสียงเปิดประตูลูกกรงบานเก่าของห้องพยาบาลเรือนจำดังขึ้น ขณะนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนเตียง ภายในห้องที่เงียบสงบแห่งนี้ มีเพียงเสียงของน้ำเกลือหยดเป็นจังหวะ และเสียงหายใจของคนที่นอนอยู่ก่อนแล้วเท่านั้น
“หืม หลับสบายเชียวนะ”
ผมค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเตียงที่มีพ่อนอนอยู่ จะว่าไปแล้วผมจะน้อยใจดีไหมนะ ผมเป็นลูกเค้าแท้ ๆ ผ่านมายังไม่ถึงยี่สิบปีก็ลืมหน้ากันซะแล้ว ถึงแม้ว่าตอนที่รักษาเค้า ผมจะใส่หน้ากากก็เถอะ แต่ว่าไม่เป็นไร เค้าเองก็เปลี่ยนไปจนผมแทบจะจำไม่ได้เหมือนกัน
จึก จึก “พ่อครับ นี่ผมเอง ตื่นก่อนครับ พ่อ”
ผมสกิดเรียกพ่ออยู่นานสองนานก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น สงสัยผมคงเล่นแรงไป แต่ไม่ว่าจะยังไงวันนี้ผมต้องคุยกันกับเขาให้รู้เรื่อง
ผมจะไม่ยอมให้การมาทำงานที่เรือนจำของผมสูญเปล่าหรอกนะ
ที่จริงตอนนี้ ผมมีสิ่งที่สงสัย และอยากถามพ่อเยอะแยะเต็มไปหมด หวังว่าแค่ตื่นมาตอบคำถามของผม คงจะไม่ยากเกินไปสำหรับเขา
“คุณเจตษฏา ตื่นครับ!”
ผมเรียกเค้าด้วยเสียงที่ดังขึ้น พร้อมกับแรงสะกิดที่มากขึ้นตามไปด้วย และดูเหมือนมันจะได้ผล เพราะครั้งนี้ พ่อค่อยๆ ลืมตาออกมาแล้ว
“คุณทำอะไรเนี่ย คนจะนอน!”
พ่อตื่นขึ้นมาโวยวาย ทั้งที่ยังไม่ได้มองหน้าผมให้ดีด้วยซ้ำ
“แหม ไม่ได้เจอกันไม่ถึงยี่สิบปี พ่อถึงกับจำผมไม่ได้เลยหรอครับ”
เสียงเย็น ๆและรอยยิ้มการค้าของผมถูกส่งไปให้พ่อ พอได้ยินแบบนี้ มันก็ทำให้เค้าหยุดโวยวาย แล้วมองมาที่ผมนิ่ง ๆ นิ่งกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก
“อินทัช?”