Time Machine : พลัชพา

นิยายสั้นแนววิทยาศาสตร์ (Science Fiction / Sci-Fi)

“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอตอบพร้อมแย้มรอยยิ้มออกมา สายชลมองดูรอยยิ้มของเธอด้วยใจที่สั่นระรัว ตั้งแต่ที่บลูเบอรี่ติวให้แล้วที่เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วเหลือเกิน ไหนจะใบหน้าที่ร้อนผ่าวราวกับเด็กเพิ่งเริ่มมีความรัก

เพิ่งเริ่มมีความรักงั้นหรือ… บ้าน่า เขาไม่ได้ชอบบลูเบอรี่สักหน่อย
.
.
.

การควิซของเขาผ่านไปอย่างราบรื่น เขาสามารถทำแบบทดสอบได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะปกติแล้ววิชานี้เป็นวิชาที่เขาไม่ถนัดเอาเสียเลย สายชลต้องยอมรับละนะว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะบลูเบอรี่ช่วยติวให้ เห็นทีวันนี้เขาคงต้องกลับไปขอบคุณเธอเสียหน่อย
.
.
.

สายชลกลับมาที่ห้องหลังจากควิซเสร็จ วันนี้เขาไม่มีเรียนตอนบ่ายและตอนเช้าก็มีเรียนแค่วิชาเดียว เขาเดินเอากระเป๋าสะพายมาวางไว้ที่โต๊ะอ่านหนังสือก่อนจะไล่สายตามองไปรอบๆ ห้องเพื่อหาคนที่มาอาศัยอยู่กับตนได้ประมาณเก้าวันแล้ว

“เป็นยังไงบ้างคะ เรื่องควิซน่ะ” บลูเบอรี่เดินมาถามเขา

“ดีกว่าที่คาดไว้ ต้องขอบคุณคุณล่ะนะที่ช่วยติวให้ผม”

“ยินดีค่ะ” เธอตอบ สายชลจึงเอ่ยชวนเธอไปทานหมูกระทะที่หน้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน แน่นอนว่าผู้มาจากอนาคตอย่างบลูเบอรี่ได้ยินคำว่าหมูกระทะก็มีท่าทีสนอกสนใจ เธอว่าที่อนาคตไม่ได้เรียกหมูกระทะด้วยชื่อนี้กันแล้ว อีกทั้งหมูกระทะสไตล์ไทยๆ ก็หาทานยากเข้าไปทุกวันเพราะในปีสองพันสองร้อยยี่สิบนั้นมักจะเต็มไปด้วยร้านปิ้งย่างแบบเกาหลีเสียมากกว่า

การมาทานหมูกระทะด้วยกันเช่นนี้ สายชลไม่เคยคิดเลยว่ามันจะทำให้หัวใจของเขาทำงานหนักขึ้นมา ท่าทางของเธอที่เขาเคยรู้สึกเฉยๆ บัดนี้เขากลับมองว่ามันดูน่ารักขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด

จนเมื่อทานเสร็จและกลับมาที่ห้อง หัวใจของเขาก็รู้สึกเป็นสุขขึ้นมาเสียอย่างนั้นเมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ

“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” เธอเอ่ย สายชลไม่ตอบอะไรกลับไป เขาทำเพียงแค่ส่งยิ้มกลับไปให้เธอเท่านั้น
.
.
.

วันเวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ จนเกือบจะครบสองสัปดาห์แล้ว สายชลรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นหน้าของบลูเบอรี่ขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมานาน ยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งรู้สึกชอบเธอมากขึ้นทุกวันราวกับเด็กๆ ที่เพิ่งมีความรักและก่อนที่เขาจะได้รู้ว่าตนเองรักเธอเข้าแล้ว…เธอก็กำลังจะกลับอนาคตเสียแล้ว

“วันพรุ่งนี้ฉันจะกลับโลกอนาคตแล้วนะคะ ฉันมาอยู่ที่นี่ได้แค่สองอาทิตย์เท่านั้น” เธอเอ่ยเสียงเศร้า “ฉันต้องคิดถึงคุณกับโลกอดีตนี้แน่ๆ”

“คุณจะไม่กลับมาที่นี่อีกหรือ” สายชลเอ่ยถาม

“ค่ะ และถึงได้มาก็คงมาหาคุณไม่ได้แล้วล่ะ จริงๆแล้วพวกเราที่มาจากปัจจุบันไม่ควรให้คนในอดีตรู้ว่ามาจากอนาคตน่ะ” เธอตอบ

“…..” สายชลไม่ตอบอะไรกลับไป เขารู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

“หวังว่าคุณจะไม่ลืมฉันนะคะ เพราะฉันก็คงไม่ลืมคุณเช่นกัน” เธอกล่าว

“แน่นอน…ผมไม่ลืมคุณหรอก ไม่มีทางเลย”

คืนนั้นสายชลนอนคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองอยู่บนโซฟาตัวยาว เขารู้สึกมีความสุขมากเมื่อบลูเบอรี่มาอยู่ด้วย แม้เธอจะพูดมากไปสักนิดแต่เธอช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินในความคิดของเขา ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ที่เขาไม่เคยคิดถึงภาพวันที่เธอต้องกลับไปยังอนาคตเลย เขาจะทำอย่างไรหากเธอกกลับไปแล้ว เขาคงจะคิดถึงเธอมากและห้องห้องนี้ก็คงจะเงียบเหงาขึ้นมา แค่เพียงนึกภาพวันที่เขากลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้วไม่พบเธออีก จิตใจของเขามันก็รู้สึกเศร้าหมอง สายชลหลับตาลง…

เขาตัดสินใจแล้ว วันพรุ่งนี้ก่อนเธอจะกลับ เขาจะบอกเธอออกไปว่าเขานั้นหลงรักเธอเข้าแล้ว
.
.
.

และดูเหมือนมันจะสายไปแล้ว…เมื่อวันรุ่งขึ้นเขาตื่นมาไม่พบเธอ เมื่อเดินสำรวจทั่วทั้งห้องก็ต้องพบกับกระดาษโน๊ตใบหนึ่งที่แปะเอาไว้ตรงตู้เย็นในห้องครัว… กระดาษโน๊ตที่ทำให้เขารู้ว่าเธอได้จากเขาไปแล้ว สายชลเม้มปากแน่น เขาก้มลงอ่านข้อความที่เขียนเอาไว้ด้วยลายมือหวัดๆของบลูเบอรี่ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว

ฉันต้องกลับแล้ว ขอบคุณมากๆ สำหรับสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันจะไม่ลืมคุณเลยและหวังว่าคุณคงจะไม่ลืมฉันเช่นเดียวกันนะคะ ลาก่อนค่ะ
.
.
.

// ปีพุทธศักราช 2603

ดร.สายชลยืนมองไทม์แมชชีนที่เขาคิดค้นและประดิษฐ์มันขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ในหัวนึกถึงใบหน้าของผู้ที่เคยมาจากอนาคต ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมอบความรักให้และไม่มีโอกาสที่จะบอกเธอออกไปว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ แต่วันนี้เขาสามารถสร้างไทม์แมชชีนขึ้นมาได้แล้ว… ไทม์แมชชีนที่จะพาเขาไปพบกับเธออีกครั้ง

สายชลในวัยหกสิบปีขึ้นไปนั่งบนไทม์แมชชีน เขาเปิดเครื่องและหมุนตัวเลขไปที่ปีคริสต์ศักราชสองพันสองร้อยยี่สิบก่อนจะกดปุ่มเพื่อทำการเดินทางข้ามเวลา

ดร.สายชลแย้มร้อยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเกิดแสงสว่างวาบไปทั่วทั้งห้องทดลอง ก่อนที่เครื่องไทม์แมชชีนและบุคคลซึ่งนั่งอยู่ด้านในจะหายไปราวกับไม่เคยมีไทม์แมชชีนเครื่องนี้อยู่ในห้อง

ไทม์แมชชีนเครื่องแรกนี้…ได้ทำการพาผู้ประดิษฐ์ข้ามเวลาไปสู่อนาคตเสียแล้ว