‘’ตกใจอะไรกันแสนดี’’
‘‘นี่ผม ตายไปแล้วหรอ’’ พี่ทัพทำได้เพียงแต่ยิ้มออกมาและหันหน้าไปฟังหมอพูดต่อ
‘‘ถ้าเขามีโอกาสตื่นขึ้นมา ก็จะไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ครับ เขาจะเป็นอัมพาตทั้งตัวเพราะอุบัติเหตุทำให้ส่วนประสาทและไขสันหลังที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและทรงตัวเกิดความเสียหายครับ’’
(ผมไม่รู้ว่าสีหน้าตอนนี้เป็นยังไง ตกใจ เสียใจ ถ้าผมยังไม่ตายมันก็เหมือนตายไปแล้ว)
‘‘รบกวนคุณพ่อไปคุยกับหมอข้างนอกนะครับ’’ หมอดูมีสีหน้าที่เคร่งเครียดมาก ทั้งพ่อและหมอเดินออกไปคุยกันข้างนอก
‘‘อยากไปฟังไหม’’ พี่ทัพหันหน้ามาถามผม
‘‘ครับ ผมอยากไปฟัง’’ ผมเดินไปหาหมอและคุณพ่อข้างนอก หวังว่ามันคงจะไม่โหดร้ายไปมากกว่านี้…
‘‘มีอะไรหรอครับหมอ ลูกชายผมจะตื่นขึ้นมาไหม จะมีทางรักษาเขาไหม’’ ทันทีที่ออกมาข้างนอกพ่อก็ถามหมอรัวๆ จนผมก็นึกสงสัยว่าผมสำคัญต่อครอบครัวขนาดนี้เลยหรอ
‘‘ใจเย็นๆ นะครับคุณพ่อ หมอมีเรื่องที่ต้องแจ้งให้คุณพ่อได้ทราบ อีกเรื่องนึง’’ หวังไว้ลึกๆว่าจะเป็นเรื่องดี
‘‘ด้วยประสบอุบัติเหตุรถชน นอกจากจะทำให้ระบบประสาทที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเกิดการเสียหายแล้ว สมองยังได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรงและทำให้คนไข้ต้องเป็น เจ้าชายนิทราครับ’’ พ่อผมเข่าทรุดทันทีเมื่อหมอพูดจบ ผมรู้สึกว่าน้ำตาเหมือนจะไหลออกมาเลย
‘‘พ่อครับ หมอครับ แสนดีน้ำตาไหล’’
พี่แสนรักเปิดประตูออกมาเรียกทั้งหมอและพ่อ นี่ผมจะตื่นแล้วใช่ไหม ผมและพี่ทัพตามเข้าไปทันที ผมจะตื่นแล้ว ผมจะตื่นแล้ว แต่นั้นไม่ใช่เลยภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือผมที่เหมือนคนหลับไป ทั้งตัวมีแต่บาดแผล เสียงของเครื่องช่วยหายใจดังไปทั่วห้อง บริเวณเตียงมีแต่สายระโยงระยางเต็มไปหมด แต่ตรงขอบตากลับมีน้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนกับว่าเขากำลังฝันร้าย หรือเสียใจกันนะ
‘‘เป็นอาการปกติของเจ้าชายนิทราครับ เขาจะแสดงอาการแบบนี้ออกมาเป็นปกติ จะมีทั้งร้องไห้ หัวเราะครับ’’