ทุกๆ คนดูตกใจกับคำว่าเจ้าชายนิทรา แต่ผมว่าก็ดีนะ ผมจะได้นอนพักซักทีไงฮ่าๆ ขำให้กับชีวิตตัวเองน่าตลกสิ้นดี ผมยิ้มขำออกมาเบาๆ ผมไม่รู้ว่ายิ้มครั้งนี้เป็นยิ้มสมเพชกับชีวิตตัวเองหรือดีใจดี ลึกๆ ข้างใน ผมว่ามันคืออย่างแรกมากกว่า
‘‘พี่แสนยิ้มด้วย คงกำลังฝันดีอยู่แน่ๆเลย’’
แสนห่วงเดินมาเกาะขอบเตียงคนไข้ คิดถึงจังไอ้น้องชายของพี่ อยากจะตื่นและดึงมากอดจัง ขอโทษนะที่กลับบ้านไปเล่นเกมด้วยกันไม่ทัน พี่แสนห่วงเดินมาลูบหัวผม บางทีพี่แสนรู้ไหมว่าผมคิดถึงสัมผัสนั้นขนาดไหน
‘‘ฝันอะไรกันไอ้แสน ไม่เห็นรอยยิ้มนี่นานแล้ว ทำไมพี่ไม่กลับบ้านบ่อยๆ กันนะ ขอโทษ’’
อะไรกันนี่พี่แสนร้องไห้หรือไง อย่าร้องเลยครับ ผมได้นอนพักยาวๆ ในรอบ 2 เดือนที่เกิดเรื่องเลยนะ ทุกๆ คนควรดีใจกับผมสิ
‘‘ระหว่างนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแสนดี’’ พี่ทัพนั่งลงข้างเตียงที่มีร่างของผมนอนอยู่และหันหน้ามาถาม
“ตอนนั้นชีวิต 18 ปีของผมดีมากๆ ที่ว่าเด็กคนนึงจะมีได้ พ่อแม่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา มีพี่น้องที่รักและดูแลกัน แต่..’ ’ผมหยุดเล่าและนึกถึงเช้าวันนั้น ถ้าผมไม่ตื่นขึ้นมา วันนี้คงต่างจากเมื่อวาน
‘‘เล่าต่อสิ พี่ฟังอยู่’’
‘‘หลังจากวันนั้นมันก็ชีวิตมันก็น่าตลกครับผมตื่นเช้ามาเจอพ่อนั่งสูบบุหรี่และสูบบุหรี่ ผมถามก็ไม่ตอบอะไร เพียงแค่ข้ามคืนทุกๆอย่างมันก็ยิ่งโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ บ้านที่เคยสงบสุขมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบและเสียงคนทะเลาะกันในทุกๆวัน ผมติดสัมภาษณ์ที่มหาลัยด้วยนะ ความคิดในตอนนั้นคิดได้แค่ว่าความสำเร็จของผมในก้าวแรกคงจะสมานแผลของครอบครัวให้เป็นเหมือนเดิมได้’’