ฉันตกใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะกินซูชิคำนั้นจากเขา หลังจากนั้นฉันและเอกก็ได้พูดคุยระหว่างมื้ออาหารกันอย่างสนุกสนานอย่างกับคนที่รู้จักกันมานาน
“นี่เจนมากี่วันครับ” เอกถามฉัน
“ฉันลางานมา 3 วันค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเรายังมีเวลาอยู่เที่ยวด้วยกันได้อีก 2 วัน พรุ่งนี้เจนไปเที่ยวนอกเมืองกับผมนะครับ” เอกพูดพร้อมทำหน้าตาอ้อนวอน
“ได้ค่ะ ฉันไม่ปฏิเสธแน่นอน” ฉันตอบพร้อมหัวเราะ
หลังจากที่เราได้กินอาหารที่ร้านนั้นเรียบร้อย ฉันกับเอกก็ได้เดินเที่ยวชมเมืองโตเกียวยามค่ำคืนต่อด้วยกัน มันช่างเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนวิเศษสำหรับฉัน ตอนที่อยู่เมืองไทยแต่ละวันของฉันหมดไปกับการทำงาน ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาทำอะไรแบบนี้เลย เมืองโตเกียวก็สวยแถมผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันก็สุดเพอร์เฟค เหตุการณ์นี้มันช่างเหมือนกับความฝันสำหรับฉัน
เช้าวันต่อมาฉันกับเอกได้เดินทางไปเที่ยวต่อที่เมือง ชิตะมาจิ ซึ่งเป็นย่านชานเมืองที่ไม่ได้ไกลจากโตเกียวมากหนัก นั่งรถไฟมาไม่นานก็ถึง ฉันกับเอกใช้เวลาที่เหลือทั้ง 2 วันเที่ยวต่อกันที่เมืองนี้ ด้วยเพราะเมืองนี้สวยงามและมีบรรยากาศที่สบาย คนไม่เยอะจนเกินไปเมืองที่โตเกียว และในคืนก่อนกลับไทยนี่เอง ที่เกิดเหตุการณ์ที่ฉันไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นกับเราทั้งสองคน
“ไหนๆพรุ่งนี้คุณก็กลับแล้ว คืนนี้เรามาดื่มด้วยกันไหมครับ” เอกถามฉัน
“ได้ค่ะ แต่ฉันดื่มไม่เก่งนะคะ” ฉันตอบ
“ไม่เป็นไรครับ มากับผมไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะสอนคุณดื่มเอง” เอกพูดพลางหัวเราะลั่น
คืนนั้นเองที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่เหมือนเดิมกับเอกอีกต่อไป ตลอดเวลาที่ฉันอยู่เที่ยวกับเขาที่ญี่ปุ่น เขาดูแลฉันดีเหลือเกิน จนในบางครั้งฉันก็คิดว่าเขาคิดอะไรกับฉันเกินกว่าแค่คนแปลกหน้าที่มาเที่ยวด้วยกันรึป่าว แต่ถึงยังไงพรุ่งนี้เราก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี ฉันเลยไม่ได้บอกหรือแสดงความรู้สึกอะไรกับเอกมากไปกว่านี้ คืนนั้นฉันกับเอกเมามาก ฉันจำได้ว่าเราคุยกันสนุกจนเหล้าหมดไปหลายขวด แล้วหลังจากนั้นเองฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย