เรือนรัก : กัลปพฤกษ์

นิยายสั้นย้อนยุค ฉากสมัยโบราณ อิงประวัติศาสตร์ (Historical/ History)

โดย : กัลปพฤกษ์
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

คุณเคยคิดเหมือนฉันไหมว่ามันจะเป็นไปได้หรือที่โลกของเราจะมีการเหลื่อมซ้อนของกาลเวลาอยู่จริงๆ มีฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ ทั้งที่ฉันเองก็เคยได้เรียนในชั่วโมงวิทยาศาสตร์มาบ้างว่ามันอาจเกิดจากความถี่ที่แปลกไปของสนามแม่เหล็กจากโลกปัจจุบัน..หรือจะเรียกให้จริงว่าอนาคตสำหรับฉันก็ได้

ฉันไม่เคยรู้มาก่อนในเรื่องนี้ แม้กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ คงบอกได้แต่ว่าฟ้ากระมังที่นำพาฉันให้เป็นไปและฉันก็เชื่อที่แม่พูดแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างมาจากที่ใด ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องกลับมาอยู่ที่เดิมเสมอ..

ฉันเคยถามหาพ่อกับแม่ ทุกครั้งที่ถามแม่มักจะทำหน้าเศร้าและหันหนี แต่ด้วยความเป็นคนใจเย็นแม่ไม่เคยว่าสักคำ แม่บอกเพียงแต่ว่าพ่อของฉันชื่อ “นพคุณบุญเรือง” ฉันเคยสงสัยทำไมพ่อของฉันชื่ออย่างกับเจ้าคุณในหนัง และยิ่งสงสัยหนักขึ้นเมื่อฉันอยากเรียนหนังสือให้สูงแต่แม่กลับไม่สนับสนุน

แม่จะจับฉันนั่งอยู่ข้างๆ สอนกรองมาลัย เย็บปักถักร้อย จัดดอกไม้และอีกสารพัดงานแม่ศรีเรือน แต่ด้วยความรั้นตามประสาสาวสมัยใหม่ฉันก็ดิ้นรนและพยายายามจนจบมหาวิทยาลัยซึ่งแม่ก็ไม่ได้ดีใจอะไรมากนัก

แม่เริ่มเจ็บออดๆ แอดๆ ฉันจะพาแม่ไปหาหมอแต่แม่ก็ไม่ยอม กลับหายาหม้อมากินเอง แม่เป็นคนใจแข็ง ดื้อ ตามประสาคนโบราณ แม่มีสมุดบันทึกอยู่เล่มหนึ่ง ท่านจะนั่งเขียนอยู่ตรงระเบียงบ้าน ยามที่ท่านเขียนท่านจะทำหน้าเศร้า บางครั้งก็จะมีน้ำตาคลอแต่ก็ไม่เคยไหลออกมา ตราบจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายท่านก็ยังนั่งเขียนอยู่นั่นเอง

“เรือนรัก เก็บไว้นะลูก เก็บติดตัวไว้ตลอด และจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะหลงไปอยู่ที่ใด ท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องกลับไปยังที่เก่าของมันเสมอ” เสียงนั้นปร่า แผ่วล้าจนต้องเงี่ยหูฟัง

มือของแม่สั่นน้อยๆ ยื่นสมุดบันทึก กุญแจและสร้อยนพเก้าให้ ใจฉันสั่น น้ำตาค่อยไหลเอื่อยอาบแก้ม มือเย็นเฉียบต่างจากมือของแม่ที่อบอุ่นอยู่เสมอ ฉันไม่เข้าใจที่แม่พูด ฉันคิดว่าแม่คงหมายถึงการต้องพลัดพรากจากกันไปคนละภพชาติเท่านั้น

“อย่าลืมเอาของที่อยู่ในตู้ไปด้วยนะลูก เอาไว้ทำทุน” แม้กระทั่งจะลาลับไกลแม่ก็มิวายที่จะปูทางไว้สำหรับฉัน

หลังจากงานศพของแม่ผ่านไป ฉันเก็บกระดูกของแม่ไว้ในโกศ ข้างๆ สมุดบันทึกของแม่ หวังว่าจะลองอ่านดูสักครั้งว่าแม่เขียนอะไรไว้บ้าง

ทันใดโกศนั้นก็ล้มลงทั้งที่ไม่มีลมพัด ไม่มีอะไรไปต้องมันเลย กระดูกของแม่หกใส่สมุดบันทึก ฉันบรรจงเก็บกระดูกเข้าไปในโกศและนำไปตั้งไว้ในห้องพระ..แปลกที่ฉันไม่รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิด

ภายในตู้ที่แม่ให้กุญแจไว้เป็น อัฐ เงินโบราณที่อยู่ในถุงสีแดงและมีเครื่องทองหยองน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มอยู่หลายเส้น แต่ฉันไม่ได้เอาของพวกนั้นติดตัวเลยสักชิ้นเพราะมองไม่เห็นความจำเป็น เก็บไว้เพียงสร้อยนพเก้าที่ดูจะเป็นของสำคัญพอๆ กับสมุดบันทึกของแม่ที่คาดว่าจะไว้อ่าน
.
.
.

บ้านของฉันเป็นบ้านทรงไทย ฉันอยู่มาตั้งแต่เกิด เป็นบ้านที่ไม่ใหญ่มากนัก บ้านที่ไม่มีแม่อยู่ดูคล้ายจะกว้างขึ้น แม่ไปแล้วแต่ชีวิตฉันก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป