ส่งบุญให้พ่อ เพื่อต่ออายุขัย : กอหญ้า

นิยายสั้นแนวชีวิต ดราม่า (Drama)

เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำที่ไหลผ่าน จนกระทั่งวิรัชโตเป็นหนุ่มเปลี่ยนผันเปลี่ยนวัยไปตามเวลาที่ผันเปลี่ยนไป ชายชราท่านนั้นได้สอนวิชาด้านสิ่งเร้นลับให้ เพราะเขามีวิชาพอตัว และตลอดเวลาวิรัชได้สร้างบุญสะสมความดีเพื่อส่งต่อบุญให้พ่อของเขาตามที่ชายชราท่านนั้นแนะนำ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่นายเคร่งพ่อของเขาถูกวิญญาณแม่ของเขาตามทำร้ายเขาเองเป็นคนมาช่วยเอาไว้ แต่พ่อของเขาจำเขาไม่ได้ เพราะด้วยความที่พ่อของเขาเข้าใจว่าเขาได้ตายไปแล้วนั่นเอง และเหตุการณ์ที่สองคือที่เขาได้ไปเตือนพ่อของเขาให้อย่าให้หลานซึ่งเป็นลูกของพี่สาวเขาไปเล่นที่บริเวณริมแม่น้ำ

วิรัชได้แต่สงสัยว่าเพราะเหตุใดวิญญาณแม่ของเขาถึงได้อาฆาตพ่อของเขาได้ถึงขนาดนั้น ถามชายชราท่านนั้นก็ได้คำตอบที่ว่าเขามีกรรมต่อกัน เราผู้เป็นลูกต้องมีหน้าที่ส่งผลบุญให้บุพการีทั้งที่พวกเขายังมีชีวิตและเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม ส่วนเรื่องของความผิดของใคร ใครก่อกรรมไว้กับใครก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมของคนนั้น แล้ววิรัชก็ถามต่อว่าแล้วคุณตาเป็นใครทำไมถึงได้รู้เรื่องนี้ดีแต่ไม่ยอมเล่าให้เขารู้ถึงเรื่องราวทั้งหมด ชายชราท่านนั้นกล่าวว่า “แล้วเอ็งจะรู้จะเห็นเองเมื่อถึงเวลานั้น”

และจนกระทั่งคืนหนึ่งเขาได้ฝันเห็นเหตุการณ์ที่พ่อกับแม่เขาไปออกเรือหาปลากันแล้วเกิดการทะเลาะกันแล้วพ่อเขาก็ได้ฆ่าแม่ของเขาตาย แล้วได้กลับมาบอกว่าแม่ของเขาเป็นลมตกเรือไปเอง เมื่อเขาได้รับรู้ความจริงถึงเรื่องนี้ก็ได้เกิดความโกรธแค้นพ่อของเขามากที่ได้ลงมือฆ่าแม่ของเขา ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าแม่ และต้องมาเจอกับแม่เลี้ยงใจร้ายอย่างน้าดาที่ใจร้ายและรังแกเขากับพี่สาวตลอดเวลา แต่ช่วงจังหวะนึงเขาก็ฉุกคิดได้ว่าพ่อของเขาเองก็คงได้รับกรรมที่พ่อได้ก่อไว้มามากแล้วเช่นกัน

ตั้งแต่สูญเสียลูกและหลานไปในเวลาติดๆกันด้วยเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว แถมยังตอนนี้ต้องมารักษาคนสติไม่ดีอย่างน้าดาแม่เลี้ยงของเขาอีก มันก็คงเพียงพอแล้วกับกรรมที่พ่อของเขาได้รับและได้เผชิญกับสิ่งนั้น คิดได้ดังนั้นก็ทำให้วิรัชข่มความโกรธแค้นต่อพ่อของเขาลงได้บ้าง

และจนมาถึงสิ่งที่วิรัชได้ฝันเห็นเรื่องราวของผู้ชายคนนึงที่กำลังอยู่กับผู้หญิงคนนึงแล้วสามีของผู้หญิงคนนั้นมาทันพอดีและเกิดทะเลาะกัน สามีของผู้หญิงคนนั้นเกิดเพลี่ยงพล้ำและถูกฆ่าตายในที่สุด และในความฝันนั้นวิรัชรู้สึกได้ว่าคือชายชราที่วิรัชได้อาศัยและถ่ายทอดวิชาให้นี่เอง วิรัชจึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้กับชายชราท่านนั้นฟัง และถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“เล่าให้ฉันฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น และตาเป็นใครมาจากไหน”

วิรัชต้องการรู้ความจริงและที่มาที่ไปของชายชราท่านนี้

“แสดงว่าเอ็งมีความดีและวิชาพอตัวแล้ว ถึงได้ฝันเห็นเรื่องราวในอดีตของข้าได้ เอาล่ะมันถึงเวลาแล้วที่ข้าจะเล่าให้เอ็งฟัง เอ็งจงตั้งใจฟังให้ดี เพราะเรื่องที่ข้าจะเล่าให้เอ็งฟังนี้ มันเกี่ยวกับปู่ย่าตายายและพ่อแม่ของเอ็ง”

วิรัชเตรียมใจตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเขาเองก็เริ่มมีลางสังหรณ์ว่าจะมีอะไรเกี่ยวกับครอบครัวเขาตั้งแต่ต้นแล้ว