เวลาผ่านไป2 เดือน เป็นช่วงเวลาที่ฉันไม่เคยเข้าเรียนคาบครูบุ้งกี๋เลย เพราะฉันอ่านล่วงหน้ามาหมดแล้วและอีกอย่างฉันไม่ชอบเรียนในห้องเรียน ยิ่งช่วงบ่ายฉันยิ่งไม่อยากเข้าเรียนเลย จนวันหนึ่งครูบุ้งกี๋เรียกฉันเข้าพบ
“ทำไมไม่เข้าเรียนรายวิชาครูบ้างเลย นางสาวนารา” ครูบุ้งกี๋ถาม
“พอดีหนู ชอบทำกิจกรรมมากกว่าค่ะครู” นาราตอบ
“แล้วงี้เป็นตัวแทนแข่งขันทักษะวิชาการเคมี เธอจะทำได้หรอ”
“หนูไม่มั่นใจค่ะ”
“เธอรู้ไหม ว่าครูได้รับมอบหมายให้เป็นคนคุม และต้องฝึกรายวิชาเคมีในการแข่งขันในครั้งนี้”
“ไม่ทราบค่ะ”
“งั้นเธอก็ทราบแล้วนะ เธอดันไม่เข้าเรียนครูเลยไม่รู้จักนิสัยใจคอเธอ งั้นหลังเลิกเรียนทุกวันมาเจอครูที่ห้องนี้นะ เราจะเริ่มติวและฝึกกันใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมง เริ่มพรุ่งนี้เป็นต้นไปนะ เพราะเหลือเวลาอีกเดือนครึ่ง ก็จะเริ่มฤดูการแข่งขันทักษะวิชาการแล้ว”
“พรุ่งนี้เลยหรอคะ!”
“ใช่จ้า หรือเธอติดปัญหาอะไรหรือเปล่า บอกครูได้เลยนะ”
“เปล่าค่ะ….ไม่ติด”
“โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
.
.
.
หลังจากที่ฉันใช้เวลาติวกับครูบุ้งกี๋หลังเลิกเรียนในทุกๆวัน เป็นเวลา 1 เดือนได้ ฉันรู้แปลกๆ ฉันรู้สึกว่าฉันชอบครูบุ้งกี๋เข้าแล้ว ตลอดเวลาที่ฉันได้มาฝึกหรือติวกับครูบุ้งกี๋ ครูบุ้งกี้น่ารักอย่างมาก นี่ฉันเผลอใจไปรักครูเข้าหรอ ไม่จริง ไม่จริง ฉันถามตัวเองอยู่ซ้ำๆ วนอยู่ในหัว เวลาฉันเดินผ่านห้องพักครูที่ครูบุ้งกี้อยู่ สายตาฉันจะมองเข้าห้องนั้นตลอด และฉันไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่าครู้บุ้งกี๋ก็มองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ฉันก็ไม่อยากคิดไปเองคนเดียว
ฉันมองเข้าไปที่ห้องนั้นทุกวันและฉันก็รู้สึกว่าครูบุ้งกี๋ก็มองฉันอยู่เหมือนกัน ฉันเก็บความรู้สึกนี้มาสักพัก จนถึงวันใกล้ไปแข่ง ประกาศออกมาว่าฉันได้นอนห้องเดียวกันกับครูบุ้งกี๋ เนื่องจากต้องไปแข่งขันที่ต่างจังหวัด จึงจำเป็นต้องต้องหาที่พักหรือเช่าโรงแรมนั่นเอง ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วฉันยิ่งเก็บอาการเหล่านี้ไว้ไม่อยู่ จึงต้องทักเข้าไลน์กลุ่มไปหาเพื่อน
“พวกมึง……ช่วยกูด้วย”
“มึงเป็นไร รีบบอกมาเดี๋ยวนี้” เต๋าถาม
“มึงเป็นไร รถล้มหรอ หรือเป็นไรรีบตอบมาดิ” ฝนถาม