แมวเจ้ากรรม : ตรีเนตร

นิยายสั้นสยองขวัญ (Horror/ Chiller)

แสงแดดตอนเช้าส่องเข้าห้อง แต่ทุกคนยังนอนนิ่งอยู่ เสียงแมวร้อง

“เมี้ยว…ยว”

เลาะเรียบข้างประตูห้องด้านนอกภูวันยังไม่ลืมเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ เขาลุกจากที่นอนย่องมาเปิดประตูห้องดู ก็เห็นมองตัวนั้นกำลังเดินผ่านหน้าห้องไป ภูวันตะครุบไว้ได้เขารวบขาแมวทั้งสี่ หิ้วเข้ามาในห้อง ใช้ด้ามไม้กวาดฟาดแมวตัวนั้นอย่างไม่ยั้งมือ จนเพื่อนที่นอนอยู่ด้วยกันลุกขึ้นมาดู

แมวร้อง “เมี๊ยว!ๆ” ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด จนขาข้างหนึ่งหลุด

จากกำมือ ตะปบข่วนหลังมือของภูวันเป็นรอยเลือดชิบๆ ทำให้ภูวันยิ่งโมโหมากขึ้น

“กูจะเอาให้ตายเลยวันนี้” เขาพูดอย่างเดือดดาล แล้วจึงเรียกรอนให้มาช่วยจับขาแมว

รอนจับขาหลังดึงยึดออก มือหนึ่งกดหลังแมวไว้ ส่วนภูวันกดคอแมวให้ติดกับพื้น แล้วฟาดหัวแมวด้วยคมไม้กวาด หมายจะให้แมวตายคามือ แมวตัวนั้นเลือดทะลักออกปาก นอนแน่นิ่งไป

เมื่อเห็นว่าแมวตายแน่แล้ว ภูวันจึงผละไปเก็บที่นอนชั่วครู่ต่อมา ขณะที่ภูวันเก็บที่นอนยังไม่เสร็จ แมวที่นำลงสารตัวนั้นก็ฟื้นขึ้นมาอีก มันร้อง “เมี้ยวๆ” พยายามตะเกียกตะกายจะออกจากห้องไป ภูวันหันไปเห็นเข้าพอดี จึงวางผ้าห่มหันมาตะคอกใส่เจ้าแมวน้อยอย่างเหลืออดว่า

“ยังไม่ตายอีกหรือ ไอ้แมวระยำ”

แล้วภูวันก็รวบขาหลังทั้งสองข้าง หิ้วแมวออกจากห้องไป แมวไม่มีแรงจะดิ้นอีกแล้วมันเพียงแต่ร้อง”เมี้ยวๆ” เหมือนจะขอชีวิตจากเขาเท่านั้นแต่ภูวันมิได้สนใจกับเสียงร้องละห้อยของมันเลย เขาร้องเรียกรอนที่ยังอยู่ในห้องให้ไปช่วยขุดหลุมฝังแมวทั้งเป็นเสียให้สาสมใจ

ผมรู้สึกสงสารแมวน้อยตัวนั้นอย่างจับใจ แต่ก็พูดอะไรไม่ออกได้แต่มองดูด้วยความเวทนา

.
.
.
จนกระทั่งถึงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภูวันและเพื่อนฝูง 5-6 คน ก็จัดเลี้ยงสังสรรค์กันที่บ้านของภูวันอีก ตั้งแต่บ่ายจนตะวันตกดินวันนั้นทุกคนเมาส่งท้ายปีเก่ากันเต็มที่ เหล้าหมดไปหลายขวดเมื่อเมาได้ที่กันแล้วก็ชวนกันไปต่อในตัวอำเภออีก

ภูวันควบมอเตอร์ไซด์นำเพื่อนๆ ออกจากบ้าน โดยมีรอนนั่งซ้อนท้ายไปด้วย แล้วคันอื่น ๆ ก็ไล่ตามหลังกันมา ระยะทางจากบ้านเข้าตัวเมืองไม่ไกลนัก แสงไฟรถยนต์สวนคันแล้วคันเล่า อีกราว 4 กิโลเมตรจึงจะถึงตัวอำเภอแล้ว ขณะนั้นข้างหน้าก็ปรากฏแสงไฟรถบรรทุกคันหนึ่ง ลำแสงสูงส่องตาพอดี และพุ่งมาด้วยความเร็ว จนมอเตอร์ไซของผมและเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่ตามมาต้องชิดขอบทาง และชะลอความเร็วให้รถบรรทุกอันตรายคันนั้นผ่านไปเสียก่อน

ทั้งนี้ภูวันยังคงบึ่งต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิม ขณะที่รถบรรทุกวิ่งเข้ามาจวนจะถึงตัวนั้น เขาไม่ได้ลดไฟต่ำลง ลำแสงอันสว่างจ้าจี้นัยน์ตาของภูวันจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า

ในฉับพลันทุกอย่างก็ดับมืดลงภูวัน มารู้สึกตัวอีกที ก็ปรากฏว่าตัวเองนอนหายใจระรวยอยู่ในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลเสียแล้ว ขาขวาถูกตัดเหนือหัวเข่าแขนซ้ายหักพันหุ้มด้วยปูนปลาสเตอร์ ส่วนรอนที่ซ้อนท้ายก็ขาขวาหักสะบ้าหัวเข่าหายไป ต้องเข้าเฝือกขานอนให้น้ำเกลืออยู่ในโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน