เมื่อเราเดินกันมาถึงกลางตึก ก็บังเอิญมาเจอกับวันและเพื่อนอีกคน เรารีบเดินเร่งฝีเท้าเพื่อให้พ้นเด็กเกเรพวกนี้ไป แต่วันก็เข้ามาดึงแขนแล้วจะหาเรื่องแกล้งฉันอีก ฉันรีบสะบัดแขนออกแล้วจะรีบวิ่งหนี
แต่แล้ววันก็ให้เพื่อนอีกคนมาช่วยจับแขนฉันล็อคไว้ด้านหลัง และพากันลากฉันไปทางห้องน้ำ
ฉันก็ร้องเสียงดังลั่นให้คนช่วย แล้วมองไปทางหมวยที่ยืนทำท่าตกใจทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น แต่คงเพราะเสียงเพลงที่ดังมาก จึงทำให้ไม่มีใครได้ยินหรือสนใจฉันเลย ฉันโดนวันและเพื่อนอีกคนลากเข้าไปที่ห้องน้ำ
และทั้งสองคนก็ช่วยกันผลักฉันเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่ง และปิดประตูใส่ฉันทันที และเอากุญแจตัวใหญ่ที่ไว้ล็อคข้างนอกประตูใหญ่มาล็อคไว้ แล้ววิ่งหนีไป
ฉันกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้แล้วทุบประตูอย่างหนัก โวยวายเสียงดังเรียกให้คนช่วย และเริ่มมองรอบๆตัวที่ทั้งมืดและแคบ ฉันเริ่มมีอาการอึดอัดหายใจลำบากมากขึ้น ใจเต้นเร็วแรงไม่เป็นจังหวะ แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของหมวยดังเข้ามาจากด้านนอกประตู
“มิน ใจเย็นๆนะ เรามาช่วยแล้ว ใจเย็นนะ เราอยู่ตรงนี้แล้ว” เสียงของหมวยที่ตะโกนปลอบฉันดังเข้ามา
แต่น้ำเสียงของหมวยก็ตื่นตกใจไม่ต่างกัน คงจะเป็นห่วงเพราะรู้ว่าฉันกลัวมากๆ
“ข้างนอกมันมีกุญแจล็อคอยู่ เราเปิดไม่ได้ ทำยังไงดี” หมวยถามปนบ่นกับตัวเอง
“หมวย ช่วยด้วย เรากลัว เราไม่ไหวแล้ว” ฉันร่ำร้องสติแตกหนักมาก
“มินใจเย็นๆนะ เดี๋ยวเราช่วยเอง มินทนแป๊บนึงนะ เดี๋ยวเรารีบวิ่งไปบอกให้ครูมาเปิดกุญแจให้”
หมวยตะโกนบอกเข้ามา
“หมวยอย่าไปนานนะ เราไม่ไหวแล้ว เรากลัว รีบมานะ” ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่กำลังร้องไห้เพราะกลัวอย่างสุดขีด
ผ่านไปไม่ถึงสองนาทีหลังจากนั้น เสียงทุบประตูดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงหมวยที่ตะโกนเข้ามา
“มิน เรามาแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ เราไปบอกให้เพื่อนที่อยู่ใกล้ๆไปบอกครูให้มาเปิดล็อคให้แล้วนะ
เราจะรีบกลับมาหามิน รอครูมาแป๊บนะ เดี๋ยวเราจะยืนคุยอยู่กับมินตรงนี้ตลอดนะ มินจะได้ไม่กลัว”
หมวยรีบบอกฉันด้วยน้ำเสียงปลอบประโลมอย่างเต็มที่
ฉันจึงพยายามใจเย็น สูดหายใจเข้าลึกๆ และเรียกหมวยพูดคุยกับหมวยอยู่ตลอด เพื่อให้คลายความกลัวลงได้บ้าง สักพักนึงฉันก็ได้ยินเสียงกลุ่มคนวิ่งมา
“ครูมาช่วยแล้วมิน” หมวยตะโนบอกด้วยน้ำเสียงดีใจ
เสียงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาหยุดที่ประตูห้องน้ำที่ฉันโดนขังอยู่ และมีคนไขกุญแจให้และรีบเปิดประตูให้ฉัน
พอประตูเปิดออก ฉันรีบวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิตไปหาครูที่มาช่วย
ตรงนั้นฉันเห็นมีกลุ่มเด็กนักเรียนอยู่สามสี่คน คุณครูอีกสองท่านและภารโรง ด้วยอาการของฉันที่แทบจะเป็นลมล้มทั้งยืน คุณครูจึงพากันเข้ามาพยุงตัวฉันและพาไปห้องพยาบาล
ฉันนอนพักที่ห้องพยาบาลอยู่สักพักจนตื่นขึ้นมา คุณครูประจำห้องพยาบาลเข้ามาถามอาการฉันด้วยความเป็นห่วง และถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันจึงเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้คุณครูฟัง
คุณครูจึงบอกให้นอนพักต่ออยู่ที่ห้องพยาบาลและรอคุณครูไปตามวันและเพื่อนอีกคนที่ขังฉันมาลงโทษ
ระหว่างที่ฉันนอนพักอยู่ที่ห้องพยาบาล ฉันกวาดสายตามองหาหมวย เพราะปกติฉันอยู่ที่ไหนหมวยก็อยู่ด้วย และยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้หมวยก็น่าจะมาอยู่กับฉัน ไม่น่าจะหายไปที่อื่น ฉันจึงรู้สึกแปลกใจว่าหมวยหายไปไหน แต่จนหมดเวลาเลิกเรียนวันนั้นฉันก็ยังไม่เจอกับหมวย ฉันจึงกลับบ้านไป
– – – –
เช้าอีกวันที่โรงเรียน คุณครูได้เรียกผู้ปกครองของวันและเพื่อนอีกคนไปด้วย และผู้ปกครองของฉันก็ไปด้วย
เพราะไปติดตามเรื่องการลงโทษคนที่มาแกล้งฉันแรงถึงขั้นนี้ คุณครูได้ให้ฉันเล่าเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง ฉันก็เล่าให้ฟังตามปกติ แต่จะมีช่วงหนึ่งที่ครูถามขึ้นมา
“แล้วเพื่อนเราที่มาด้วยกันที่เราบอกเขาอยู่ไหนคะ ตอนครูเข้าไปก็ไม่มีใครนะ” คุณครูถามด้วยใบหน้างุนงง
“หนูก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนค่ะ ออกมาก็ไม่เจอกันเลย” ฉันตอบกลับด้วยอาการแอบงอนเล็กๆที่หมวยหายไป
แต่เมื่อคุณครูสอบถามทางวันและเพื่อนว่าแกล้งฉันจริงไหม วันและเพื่อนก็ยอมรับแต่โดยดี แต่กลับเล่าว่าเจอฉันเดินอยู่เพียงคนเดียวจึงได้เข้ามาแกล้ง แต่ฉันก็ยืนยันว่าอยู่กับเพื่อนที่ขื่อหมวย
เมื่อคุณครูทุกคนได้ยินแบบนั้นก็หน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่มีใครได้พูดอะไร
สุดท้ายทางโรงเรียนได้แจ้งกับผู้ปกครองทุกคนว่าตัดสินทำการลงโทษวันและเพื่อนโดยการสั่งพักการเรียน
เมื่อเคลียปัญหาจบทุกคนพากันกลับออกจากห้องไป แต่คุณครูกลับเรียกตัวฉันไว้
“เดี๋ยวเราอยู่ก่อนนะ ครูมีอะไรจะถามเราหน่อย” คุณครูหนึ่งในสี่คนบอกกับฉัน
“ค่ะ” ฉันตอบสั้นๆและนั่งรออยู่กับผู้ปกครองของฉัน รอให้ผู้ปกครองของวันและเพื่อนอีกคนกลับออกไป
“เราบอกครูหน่อยสิ ว่าเพื่อนชื่อหมวยที่เราบอก เราบอกว่าเรียนอยู่ห้องเดียวกันหรอ”
คุณครูประจำชั้นของฉันถามขึ้นมา