ผ้าผี : ตรีเนตร

นิยายสั้นสยองขวัญ (Horror/ Chiller)

โดย : ตรีเนตร
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

หลายปีนานมาแล้วผมยังจำได้ดี เพราะมันเป็นความทรงจำที่ผมคงไม่ลืมเลยตลอดชีวิตนึกขึ้นมาทีไรเหมือนมันเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง  มันเป็นเช้าวันหนึ่งในฤดูร้อน ผมกับเพื่อนอีกสามคน มี ดาว, บอย, แก้ว รวมทั้งผมด้วยเป็น 4 คน ได้ซวนกันไปเที่ยวยังหมู่บ้าน “หนองผักตบ” บ้านเพื่อน แต่หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านของเราออกไปประมาณ 10 ก.ม เศษเห็นจะได้ ยุคนั้นนะครับถนนหนทางหรือรถยนต์ประจำทางไม่ต้องพูดถึงคือไม่มีเลยครับ มีเพียงทางเกวียนแคบ ๆ เท่านั้น ยิ่งเรื่องไฟฟ้า, น้ำประปาด้วยยิ่งแล้วกันใหญ่ พวกผมเคยเห็นแต่ในหนังสือพิมพ์ห่อของที่พ่อแม่ไปจ่ายตลาดในตัวอำเภอปีละไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น

นี่คือความเจริญของชนบทไทยขนานแท้เมื่อ 40 กว่าปีมาแล้ว ลองเปรียบเทียบดูกันทุกวันนี้ละกัน ผมว่ามาได้ไกลขนาดนี้ก็ดีถมไปแล้ว ในเมื่อพวกเราคิดได้ว่าจะรอรถยนต์ประจำทาง ก็คงต้องใช้เวลาอีก 20 กว่าปีจึงจะมีผ่านมา จึงตัดสินใจเดินทางด้วยเท้าธรรมดา ๆ ที่ว่าธรรมดาก็เพราะไม่มีแม้แต่รองเท้าแตะใส่เลยสมัยนั้นถ้ามีก็รองเท้ายางรถยนต์แบบนั้นใครได้ใส่จะหรูและทนทานมาก แต่พวกผมที่ไปกันนี้ไม่มีใครใส่รองเท้าสักคน ระยะทาง 10 กม.กว่าตอนนั้นมันไกลมากนะครับ  พวกผมใช้วลาเดินเกือบทั้งวันถึงหมู่บ้านหนองผักตบ ก็ราว 4-5 โมงเย็นได้เวลาแดดร่มลมพัดพอดี

 เพื่อนเราพาไปที่บ้านญาติของมันชื่อ บุญเติม เมื่อทักทายปราศรัยกันแล้ว ผมจึง

ได้รู้ว่าบุญเติมคนนี้เป็นลูกของป้าแดง ป้าแดงมีลูกสาวอีกคนชื่อพี่นก ผมทราบเพียงว่าพี่นกตายไปแล้วเมื่อ 2 เดือนเศษนี้เอง พี่นกมีครอบครัวแยกไปนานแล้ว มีลูกสาวอีกคน ผมไม่ได้ถามหรอกว่าพี่นกเป็นอะไรตาย

ส่วนบุญเติมอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสูงใหญ่ผิวดำสนิท มีใบหน้าหมองคล้ำแต่ดูซีดเชียวท่าทางซึมๆ

.
.
.

บ้านของบุญเติมตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 500 เมตรเศษเห็นจะได้ ตัวบ้านก็มองดูทรุด

โทรมเหมือนกับจะเป็นบ้านร้างที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า ใยแมงมุมทอดสายระโยงระยางพาดขอบประตูหน้าต่างตามเพดานทั่วไปหมด ผมซักเกิดความสงสัยอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องเก็บไว้ในใจ

หลังจากอาบน้ำและกินข้าวเย็นกันแล้ว เราก็นั่งคุยกันที่ระเบียงบ้านด้วยเรื่องนานาปัญหาสารพัน จนได้เวลาเกือบสามทุ่มจึงชวนเข้านอนมีเสื่อ 2-3 ผืนปูติดกัน หมอนคนละใบ นอนเรียงกัน บุญเติมนอนริมขวาสุดติดกับผม ต่อมาเป็นดาว, บอย แก้ว ตามลำดับ ชั่วครู่เดียวเท่านั้นทุกคนก็หลับสนิท เหลือผมคนเดียวหลับแต่ตาไว้เพราะคิดสงสัยหลายอย่างที่เห็นบ้านบุญเติม

คืนนั้นดึกสงัดราวเที่ยงคืน ลมทุ่งพัดโซยเฉื่อยอากาศเย็นสบายผมยังนอนไม่หลับเพราะมันเย็นเยือกๆ ชอบกลจนผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงบจนผมอดคิดไม่ได้ว่า

เอ…ทำไมมันทั้งเงียบทั้งเย็นเช่นนี้ ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงมผสมกับเสียงกรนของดาวดังครืดคราดฟืดฟาด…ขัดจังหวะเป็นระยะนาน ๆ ก็มีเสียงของหมาที่ในหมู่บ้านหอนขึ้นเป็นของแถม ทำให้บรรยากาศยิ่งดึกยิ่งวังเวงอย่างไรบอกไม่ถูก

ตอนหนึ่งขณะผมกำลังเคลิ้มจะหลับก็ต้องสะดุ้งตกใจสุดขีด