ท้องฟ้าสีเทา กับ ความเศร้าของวัลลี : Wind life

นิยายสั้นแนวชีวิต ดราม่า (Drama)

เธอไม่อยากที่จะทิ้งยายไว้เพียงลำพังแต่เธอยังมีหน้าที่ที่ต้องไปทำเพื่ออนาคตที่ดีของเธอและยาย เธอจึงจำใจต้องปล่อยยายไว้ที่นี่ก่อน เพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าในวันนี้เธอจะต้องทิ้งยายไว้คนเดียวแต่เธอก็ยังเชื่อเสมอว่าต้องมีสักวันที่เธอจะได้กินข้าวพร้อมหน้ากันกับยายอีกครั้ง
.
.
.

“จูล่ง อยู่ไหน ออกมาหาเร็ว”

เมื่อเธอกลับมาถึงเธอก็ตะโกนเรียกสุนัขคู่ใจของเธอ แต่เธอกลับไม่พบเสียงตอบรับใดๆกลับมา เธอพยายามมองหาแล้วตะโกนเรียกซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง

“จูล่ง ออกมาเร็ว ไปอยู่ไหนนะ”

และทันใดนั้นเองจูล่งก็วิ่งเข้ามาหาเธอโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว สายตาของจูล่งบ่งบอกว่ามันดีใจมากที่เธอกลับมา มันทั้งกระโดดเข้าหาทั้งเลียหน้าซึ่งเป็นอาการของสุนัขที่ดีใจเมื่อได้พบกับเจ้าของ เธอกอดมันไว้แน่นพร้อมกับเล่าเรื่องทุกอย่างให้มันฟัง

“เราคงต้องอยู่กันแบบนี้ไปก่อนนะจูล่ง ถ้ายายออกจากโรงบาลได้เมื่อไหร่เราจะไปรับยายด้วยกันนะ”

เมื่อพูดจบน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เธอคิดถึงยายและอยากจะไปดูแลยายใกล้ๆเธออยากทำอะไรได้มากกว่านี้ เธออยากจะรู้ว่าตอนนี้ยายเป็นอย่างไรบ้าง เธอได้แต่โทษตัวเองว่าเธอเป็นหลานที่แย่มาก เธอดูแลยายได้ไม่ดีเท่าที่ยายเคยดูแลเธอ
.
.
.

เธอใช้ชีวิตต่อไปเพื่อรอวันที่จะได้พบกับยายอีกครั้ง เธอพยายามเดินไปขายพวงมาลัยให้ไกลกว่าเดิมเพื่อให้ได้เงินเยอะมากขึ้น เธอตั้งใจที่จะเก็บเงินไว้เยอะๆเธอยอมกินข้าวคลุกน้ำปลา หรือบางวันเธอก็ยอมอดเพื่อประหยัดค่าใช่จ่ายให้ได้มากที่สุด เธอต้องทนเหนื่อยในทุกๆวัน แต่อย่างน้อยๆ เธอก็มีจูล่งที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรจูล่งจะตามเธอไปทุกที่

“จูล่ง ทนอดข้าวอีกวันนะ เราจะได้มีเงินไปเช่าบ้านเร็วๆไง”

เธอมีความหวังและมีภาพในหัวอยู่ว่า เธอ ยายและจูล่งจะต้องได้อยู่บ้านด้วยกันอย่างมีความสุข แต่เหมือนกับว่าโชคชะตาจะไม่อยากให้เธอพบเจอกับความสุข เมื่อเธอเงยหน้ามองท้องฟ้าเธอก็พบกับท้องฟ้าสีเทาอีกครั้ง

“พี่คะ วันนี้หนูมารับยายออกจากโรงบาลค่ะ”

“คุณยายออกจากโรงบาลไปเมื่อเช้านี้ค่ะ”

พี่พยาบาลเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เธอฟังว่า เมื่อยายอาการดีขึ้นยายก็ออกจากโรงพยาบาลไปทันที โดยที่ไม่รอให้ญาติมารับ

วัลลีเดินออกมาจากโรงพยาบาลโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เธอไม่รู้ว่าจะไปตามหายายได้ที่ไหน ภาพฝันที่เธอวาดไว้จะต้องจบลงทุกอย่าง สายตาแห่งความสิ้นหวังของเธอทำให้จูล่งเศร้าไปด้วย น้ำตาของเธอต้องเสียไปให้กับความผิดหวังที่มีมากมายในชีวิต

แต่ทันใดนั้นเองจูล่งก็วิ่งไปที่ป้ายรถเมล์เหมือนกับว่ามันเห็นอะไรบางอย่าง

“จูล่ง จะไปไหนระวังรถ”

เธอตะโกนเรียกและรีบวิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วงและความสงสัย

“ยาย”

ภาพที่เธอเห็นเป็นภาพของยายที่ค่อยๆ ลงมาจากรถเมล์ เธอรีบไปกอดยายไว้แน่นมันคือความสุขที่เธอเฝ้ารอมานานแต่ในที่สุดเธอก็ได้พบยายอีกครั้ง เธอและยายมองหน้ากันแล้วก็ร้องไห้ออกมา โดยที่ทั้งสองยังไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ

ภาพฝันของเธอใกล้ที่จะเป็นจริงเข้ามาเรื่อยๆ เธอพายายไปดูบ้านเช่าแล้วนำเงินเก็บที่มีไปจ่ายค่าบ้าน

เธอไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกที่เธอมีในตอนนี้อย่างไร เธอได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ความพยายามทั้งหมดที่เธอตั้งใจทำมาก็ส่งผลให้เธอพบกับวันที่เธอวาดฝันไว้

ท้องฟ้าสีเทาอาจจะเป็นสัญญาณของเรื่องแย่ๆ แต่สุดท้ายท้องฟ้าก็จะกลับมาสดใสในเช้าวันใหม่เสมอ