“ อาการของคนไข้ดีขึ้นมากแล้ว ยินดีด้วยนะครับที่ดวงตาข้างขวากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง อย่าพึ่งหมดกำลังใจไปเลยนะครับ หมอจะพยายามรักษาดวงตาของคนไข้ให้ดีขึ้นมากกว่านี้อย่างแน่นอน ไม่ต้องกังวลนะ” คุณหมอใจดีคนนั้นพูดปลอบใจและยิ้มให้กับผม
“คุณพยาบาลครับ รบกวนช่วยเรียกญาติคนไข้เข้ามาให้ด้วยนะครับ” หลังจากที่พูดจบหมอก็เอ่ยบอกกับพยาบาลข้างๆทันที
.
.
.
“อาการแฟนผมเป็นยังไง— ” คนที่เข้ามาใหม่กำลังจะเอ่ยถามหมอแต่ต้องชะงักไปเสียก่อนเมื่อสายตาของเขาเลื่อนมาสบตากับผมที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่
“ทำไมถึงร้องไห้แบบนั้นล่ะเหมือนฝัน” มาร์คที่พึ่งเดินตามพยาบาลเข้ามาเอ่ยทักขึ้นเมื่อเขาเห็นผมกำลังนั่งร้องไห้อยู่
“คนไข้ฟื้นตัวเร็วมากเลยนะครับ ตาขวาของเขาเริ่มจะมองเห็นได้อีกครั้งแล้ว ถึงตอนนี้จะเห็นเป็นภาพขาวดำอยู่ แต่ถ้ารักษาไปเรื่อยๆและมาพบหมออย่างสม่ำเสมอก็มีโอกาสสูงที่จะกลับไปมองเห็นภาพสีอย่างที่เคยเห็นได้ครับ” คุณหมอเอ่ยอธิบายขึ้นอย่างยิ้มๆ
“จริงหรอหมอ!!! นี่แฟนผมเขากลับมามองเห็นได้อีกครั้งจริงๆใช่ไหมครับ!!”
“เหมือนฝัน!! เหมือนฝันเห็นหน้ามาร์คใช่ไหม” คนตรงหน้าผมเอ่ยขึ้นพร้อมร้อยยิ้มและแววตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ
“…” ผมตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงแค่พยักหน้าอย่างยิ้มๆให้กับคนตรงหน้า
ถึงแม้มันจะเป็นเพียงภาพขาวดำไร้สีสัน แต่รอยยิ้มของมาร์คที่กำลังยิ้มพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นด้วยความดีใจจนกั้นไม่อยู่นั้น มันได้เติมเต็มสีทั้งหมดที่ขาดหายไปของผมจนครบเพราะความรักและความอบอุ่นที่คนตรงหน้ามอบมาให้ผมมันมากมายเหลือเกิน ฉะนั้นต่อให้ผมจะมองเห็นรอยยิ้มของมาร์คเพียงแค่ตาข้างเดียวที่ไร้สีสัน ผมก็มีความสุขที่ได้มีโอกาสกลับมาเห็นมันอีกครั้ง…เห็นรอยยิ้มที่งดงามของคนที่ผมรักมากที่สุด
ขอบคุณพระเจ้าที่ยังเมตตาให้ผมได้มองเห็นหน้าคนที่ผมรักอีกครั้ง …
ขอบคุณหมอจักษุแพทย์คนนั้นที่รักษาจนตาข้างขวาของผมมันกลับมามองเห็น
ถึงแม้ว่ามันไม่ได้สมบูรณ์เหมือนอย่างก่อนหน้าที่เคยเป็น แต่มันก็ทำให้ผมมองเห็นมาร์คได้อย่างมีความสุข
ขอบคุณ ‘มาร์ค’ แฟนหนุ่มของผม ที่ไม่เคยทิ้งไปไหนและอยู่เคียงข้างผมมาตลอด ขอบคุณ……ที่เขารักผมมากขนาดนี้