โดย : KANI
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media
ช่วงสายของวันนี้เป็นวันหยุดที่ ไม่มีแดดและอากาศเย็นสบาย ซึ่งเป็นใจต่อการไปออกเดตกันของฉันกับคนคุยเป็นอย่างมาก ฉันชื่อน้ำขิงที่กำลังนั่งรอโลมามารับอย่างตื่นเต้นและใจจดใจจ่อ นี่เป็นเดตแรกของเราจากที่ได้พูดคุยศึกษาดูใจกันมาเป็นเวลาสักพักใหญ่ได้แล้ว ทุกคนรอบตัวเราต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเราทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมาก แต่ฉันไม่เชื่อที่คนอื่นพูดกันหรอก ฉันต้องดูๆ ไปจนกว่าจะมั่นใจในตัวเขาก่อน
“น้ำขิงงงง โลมามารับแล้วลูก” เสียงแม่ของฉันตะโกนขึ้นมาบอกว่าโลมามาถึงแล้ว
“ค่ะแม่ หนูจะลงไปค่ะ” ฉันรีบตอบแม่กลับไป พร้อมสะพายกระเป๋าแล้วรีบเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน
“ไปแล้วนะคะแม่ เดี๋ยวหนูจะรีบกลับมาค่ะ” ฉันบอกแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวี ก่อนจะออกจากบ้านมายังที่รถเก๋งสีขาวแล้วเปิดประตูขึ้นรถไป
“วันนี้เธอสวยจัง” เขาทักทายขึ้นมาด้วยคำชม มันเป็นคำทักทายของเขาที่ฉันได้ยินอยู่เสมอ
“เค้าสวยทุกวันอยู่แล้ว” ฉันตอบกลับไปด้วยความเคยชิน และไม่ได้ถ่อมตัวเลยสักนิดเดียว
“ก็จริง แล้วรอเค้านานรึเปล่า” โลมาตอบยิ้มๆ แล้วหาเรื่องชวนฉันคุยต่อ
“ไม่นานเลย เค้าแต่งตัวเสร็จสักพักเธอก็มาพอดี”
จากนั้นเราก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อย ต่อด้วยเราไปทานข้าวดูหนังในห้างกัน และสุดท้ายมาจบที่ตรงนี้ ที่สวนสาธารณะข้างๆห้างแห่งนี้ บรรยากาศช่วงเย็นของสวนสาธารณะที่มีบึงตรงกลางและกลิ่นดอกไม้สักชนิดหนึ่งมันทำให้ฉันผ่อนคลายและรู้สึกดีมาก ที่ตรงนี้เงียบสงบสุดๆ
“น้ำขิง” โลมาเอ่ยขึ้นมาเพื่อดับความเงียบ
“มีอะไรหรอ” ฉันถามเขากลับ ขณะที่ยังเพลิดเพลินกับการชมวิวและไม่ได้หันไปมองเขา
“คือเราก็คุยกันมานานแล้ว วันนี้เธอตอบตกลงเป็นแฟนกับฉันนะ” เขาตอบกลับมาพร้อมกับค่อยๆ เลื่อนมือเข้ามาจับกุมที่มือของฉัน
“คือฉันว่ามันยังเกินเร็วไป เราดูๆ กันไปก่อนนะ…” ฉันตอบเขาเสียงอ่อน และหลบตา
“มีอะไรที่เธอยังไม่มั่นใจในตัวฉันอีกหรอ ฉันชอบเธอมากเลยเธอเองก็รู้ดี” เขาตอบเสียงเศร้า ฉันก้มหน้าและพยายามนึกคิดว่าอะไรที่ทำให้ฉันไม่มั่นใจในตัวเขา เขาใช้เวลาว่างเพื่อพยายามจีบและเข้าหาฉันทุกวิถีทาง เขาคุยกับฉันแค่คนเดียว เขาเลิกเที่ยวกลางคืนและเลิกสูบบุหรี่เพียงเพราะเขารู้ว่าฉันไม่ชอบ แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะปฏิเสธเขาอยู่อีกล่ะ
“ตกลง เรามาคบกันนะ” ฉันเงยหน้ามองเขาพร้อมยิ้มให้แล้วตอบตกลง
.
.
.
5 ปีต่อมา…
ฉันนั่งมองออกไปที่หน้าต่างบนคอนโดหรูใจกลางเมืองหลวงแห่งหนึ่ง คิดถึงเรื่องราวในอดีตของฉันกับโลมาก่อนที่จะคบกัน เรื่องความรักที่เปรียบเหมือนดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่งในปีแรกของเรา แล้วปีต่อมา
จนถึงตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่ที่โลมาได้เข้าสู่วงการบันเทิงและกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ ความรักของเราเหมือนดอกไม้ที่กำลังจะเหี่ยวเฉารอวันตาย ความสัมพันธ์ของฉันกับโลมาต้องเก็บเป็นความลับไว้ เพราะแฟนคลับของโลมาที่คลั่งไคล้เขามาก มากจนให้ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าทำให้พวกเธอไม่พอใจเช่นเรื่องมีแฟน แฟนคลับพวกนั้นก็ทำให้โลมาดับได้เหมือนกัน
โลมากับฉันอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ด้วยกัน ฉันรู้ว่าเขายังรักฉันอยู่ แต่ฉันก็สัมผัสได้ว่ามันไม่มากเท่าเมื่อก่อน….. ฉันนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะสะบัดไล่ความคิดนี้ออกไป ความคิดเมื่อกี้อาจจะเกิดขึ้นเพราะฉันเหงา ทุกครั้งที่เขากลับมาฉันก็ดีใจ เหมือนหมารอเจ้านายกลับบ้านอยู่ดี ฉันพยายามสะบัดความคิดพวกนั้นออกจากหัว เวลาที่มันหลุดเข้ามา และพยายามทำความเข้าใจว่าโลมาเขาแค่ไม่ว่าง เขาไม่มีเวลาให้เพราะเขาต้องทำงาน แล้วฉันจึงเดินไปเปิดทีวีเพื่อหาอะไรดูให้ตัวเองไม่ฟุ้งซ่าน
“แล้วตอนนี้เราก็มาอยู่กับซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของเมืองไทยนะคะ นั่นก็คือคุณโลมานั่นเองงง” พิธีกรรายการบันเทิงกล่าวทักทายโลมา
“สวัสดีครับผมโลมาเองครับ คิดถึงแฟนๆ จังเลยมีใครคิดถึงผมบ้างไหมเอ่ย” โลมาทักทายแฟนๆ ผ่านกล้องอย่างสดใส
“ค่ะคุณโลมาคะ กับข่าวคุณโลมาที่มีชาวเน็ตออกมาแฉว่า ที่จริงแล้วคุณโลมาแอบมีแฟนที่คบกันมานานแล้ว แล้วตอนนี้ก็อยู่คอนโดด้วยกันนี่มันยังไงกันคะ” ฉันได้ยินสัมภาษณ์แล้วก็ต้องตั้งใจฟังคำตอบของโลมา
“เอ่อ คือว่า….” ฉันยืนลุ้นกับคำตอบของโลมา พร้อมกับแอบหวังเล็กๆ ว่าคำตอบของเขาจะเป็นคำตอบที่ฉันอยากได้ยิน “คือมันไม่มีอะไรเลยครับ อาจจะเป็นเพื่อนผู้หญิงของผมนั่นเองน่าจะวันที่ปาร์ตี้วันเกิด มีเพื่อนมาหลายคนครับ” ว่าแล้วโลมาไม่มีวันบอกความจริงเรื่องของเราให้คนอื่นรู้หรอก ฉันหงุดหงิดหน่อยแล้วปิดทีวีไป
ติ๊ดติ๊ด
แล้วทันใดนั้นก็มีสียงเปิดประตูจากการสแกนลายนิ้วมือขึ้นมา โลมากลับมาแล้ว อยู่ดีๆ ฉันก็อารมณ์ดีขึ้นมาแล้วเดินไปถือกระเป๋าช่วยเขา
“วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยรึเปล่า” ฉันถามเขาเหมือนทุกๆวันที่เขากลับมา
“เหนื่อยมาก แล้วง่วงนอนมากด้วย น้ำขิงช่วยไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้เค้ากินหน่อยนะ เดี๋ยวนั่งพักแป๊บหนึ่งแล้วเค้าจะไปอาบน้ำแล้วนอนเลย” ฉันรีบไปเอาน้ำใส่แก้วมาให้เขาดื่ม
“เดี๋ยวเค้านวดให้นะ” ฉันพูดเสร็จก็รีบไปนวดให้เขา สักพักเขาก็ไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน
“มานี่เร็ว” เสียงของโลมาพูดขึ้นมาพร้อมใช้มือตบที่เตียงข้างๆ ตัวเขา ขณะที่ฉันพึ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ
ฉันยิ้มร่าและรีบเดินไปหาเขาตามที่เขาบอก แล้วโลมาก็ค่อยๆ เลื่อนแขนของเขาสอดเข้ามารัดที่เอวของฉัน เขาค่อยๆ จุ๊บลงตรงหน้าผากของฉันแล้วค่อยๆเ ลื่อนลงมาที่แก้มก่อนจะมาจบลงที่ปาก เราจูบกันอย่างดูดดื่มแล้วภาพก็ตัดไปที่โคมไฟเหมือนในละคร
.
.
.
ในตอนเช้าฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของโลมา เขายังหลับอยู่เลย ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ฉันอยากจะหยุดเวลาเอาไว้แค่ตอนนี้ตรงนี้ ทุกครั้งที่เขากลับมา หัวใจของฉันมันเหมือนดอกไม้ที่ถูกรดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างเอาใจใส่ แต่วันแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ปกติโลมากลับคอนโดมาก็ต้องรีบอาบน้ำแล้วก็นอน เขาได้พักมากสุดก็แค่ 5 ชั่วโมงเองมั้ง แล้วเขาก็ต้องออกไปทำงานอีกแล้ว หรือบางวันเขาก็ไม่ได้กลับเลยด้วยซ้ำ ฉันคิดเรื่องนี้แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ฉันลุกจากเตียงเพื่อจะออกไปทำอาหารให้โลมากิน
ตื้อดึ่งง..
มีเสียงไลน์เข้าในเครื่องของโลมาจากคนชื่อ ลิลลี่
[ทำไมคุณไม่ตอบข้อความฉันเลย ฉันคิดถึงคุณนะ] นี่มันอะไรกัน ลิลลี่คือใคร โลมาแอบนอกใจฉันหรอ…
ฉันยืนทำอาหารด้วยความเหม่อลอย เพราะหยุดคิดเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อลิลลี่ไม่ได้ ฉันทำอาหารเสร็จแล้ว และโลมาก็อาบน้ำแต่งแต่งตัวเสร็จพอดี ฉันตักอาหารไปให้โลมา1จาน และก็ของฉันเอง เรานั่งกินอาหารไปแล้วจู่ๆ เรื่องของผู้หญิงก็ผุดขึ้นมาเต็มหัวไม่หยุด
“น้ำขิงเธอเป็นอะไรหรือเปล่า” โลมาถามฉัน
“ลิลลี่คือใครหรอ” ฉันถามออกไปเพราะทนเก็บความสงสัยนี้ไว้ไม่อยู่
“….” เขาอึ้งไปเล็กน้อย “เธอแอบเช็คมือถือเค้าหรอ” แล้วตอบออกมาเสียงอ่อน
“เค้าถามว่าลิลลี่คือใคร” ฉันถามเขาเสียงแข็ง
“ลิลลี่นางเอกที่แสดงละครกับเค้าเอง แต่มันไม่ได้มีอะไรเลยนะน้ำขิง” โลมาพยายามอธิบาย แต่ตอนนี้เขาพูดอะไรออกมามันก็ดูฟังไม่ขึ้นสำหรับฉันแล้ว
“….” ฉันนั่งก้มหน้าร้องไห้
“น้ำขิงมันไม่ได้อะไรเลยจริงๆ นะ อย่าร้องไห้เลยนะ”เ ขากอดและโอ๋ฉัน
“น้ำขิงเค้าต้องไปทำงานแล้ว เดี๋ยวเค้าทักหานะเลิกงอนเค้าได้แล้ว เชื่อใจเค้าเถอะครับ” โลมาปลอบฉันได้แป๊บเดียวแล้วเขาก็รีบออกไปทำงาน ทิ้งฉันไว้ให้นั่งร้องไห้คนเดียวอยู่อย่างนี้ ทำไมงานของเขามันถึงสำคัญกว่าฉันทุกครั้งไป ฉันเริ่มร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะน้อยใจและเอาหลายๆเรื่องที่เคยคิดมากๆ ไว้มารวมกัน
ถ้าความรักคือต้องทน ถ้ามันต้องเหนื่อย
แล้วไม่ได้อะไร ทำแล้วฉันทำทุกทางไม่มีค่าใด
ถ้าการรักใครสักคน มันทำให้เจ็บ
เจ็บจนไม่เข้าใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันยอมไม่รักใคร
(เพลงเจ็บจนไม่เข้าใจ ศิลปิน: Portrait)
หลังจากที่ฉันตั้งสติได้จากการร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก ฉันก็คิดขึ้นมาได้ว่าฉันควรจะให้โอกาสโลมาได้พูดและอธิบายบ้าง สิ่งที่ฉันเห็นมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดเสมอไป ฉันผ่านมาได้ตั้ง 4 ปีทำไมจะผ่านมันไปไม่ได้
ตื้อดึง (ข้อความจากโลมา)
[หายงอนเค้ายังครับน้ำขิง อย่าคิดมากเลยนะมันไม่มีอะไรแล้วจริงๆ] ไม่มีอะไรแล้ว…แปลว่าเคยมีหรอ
[ไม่มีอะไรแล้วคืออะไร ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม] ฉันตอบเขากลับไปเพื่อเอาคำตอบที่ชัดเจนขึ้น
[มันไม่มีอะไร… ขอร้องล่ะน้ำขิงเค้ารักเธอนะ] เขาเอาแต่พูดว่าไม่มีอะไรอ่ะ ทำไมไม่อธิบายอะไรออกมาบ้างมันทำให้ฉันยิ่งกระวนกระวายใจ แต่ในเมื่อยังจับไม่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนผิด ฉันต้องมีสติให้มากๆนะ จะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดลงไป ฉันพยายามเตือนสติตัวเอง แล้วตอบเขาปกติเหมือนได้ติดใจกับอะไรเรื่องนี้แล้ว คุยกันไปสักพักเขาก็ขอไปทำงานแล้วหายไปเลย
ตื้อดึงง
ฉันรีบจับมือถือดูเพราะคิดว่าเป็นข้อความจากโลมา แต่ข้อความที่เข้ามากลับเป็นเบอร์แปลก ฉันกดเข้าไปดูแต่มันไม่มีข้อความอะไรเลยแต่มันเป็นรูปเซลฟี่ของผู้หญิงหน้าสวยคนหนึ่งเอาหัวอิงที่ไหล่ของโลมาอยู่ ฉันเห็นรูปนี้แล้วค่อยๆ วางมือถือลงอย่างช้าๆ ฉันทนกับเรื่องนี้ไม่ไหวแล้ว
.
.
.
เช้าวันต่อมา..
ฉันนอนไม่หลับและรอที่จะเคลียใจกับโลมา แต่เมื่อคืนโลมาส่งข้อความมาบอกว่าวันนี้เค้าไม่ได้กลับมานอนที่คอนโด ฉันเลยอยู่ในสภาพตาบวมเพราะร้องไห้และไม่ได้แบบนี้รอเขากลับมา
ติ๊ดติ๊ด
โลมาเข้าห้องมาเห็นในห้องแล้วเห็นสภาพของฉันก็ตกใจ แล้วรีบเข้ามากอด
“ทำไมน้ำขิงเป็นแบบนี้ เค้าขอโทษที่ปล่อยให้น้ำขิงต้องนอนคิดมากทั้งคืน เค้าขอโทษจริงๆ”เค้าพูดเพื่อพยายามจะปลอบฉันและขอโทษขอโพยไม่หยุด ฉันดันตัวเขาออกห่างแล้วยกมือถือขึ้นมาเปิดรูปจากข้อความนั้นให้เขาดู
“นี่คือลิลลี่ใช่ไหม มีอะไรจะอธิบายหรือเปล่า” ฉันถามเขาอย่างล่องลอย
“ใช่ รูปนี้มันไม่มีอะไรเลยนะเธอมันเป็นรูปจากละครที่เราเล่น เค้าเคยแอบน้ำขิงคุยกับลิลลี่… แต่เราไม่มีเคยมีอะไรเกินเลยเลยนะ เพราะเค้ารักเธอเค้าเลือกเธอเค้า พอคิดได้เค้าก็เลิกคุยไป เค้าบอกลิลลี่ไปตรงๆ ว่าเค้ามีน้ำขิงอยู่แล้ว ลิลลี่คงอยากแก้แค้นเค้าเลยใช้วิธีนี้ รวมถึงเรื่องที่ปล่อยข่าวเราด้วย น้ำขิงให้อภัยเค้านะครับ”
เขาอธิบายมาจนกระจ่าง ฉันเข้าใจเขาแล้ว ถามว่ารักเขาไหมตอบได้เลยเต็มปากว่าฉันรักเขามาก แต่ฉันเหนื่อยที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้แล้ว…
“เลิกกันเถอะ… เลิกกันเถอะนะโลมา” ฉันบอกเลิกโลมาพร้อมร้องไห้โฮออกมา
“ไม่เอา ขอร้องล่ะน้ำขิง” โลมาร้องไห้และปฏิเสธกลับมา พร้อมเข้ามาสวมกอดฉัน เราทั้งคู่ร้องไห้อย่างหนัก
“ถ้าเธอรักเค้า เธอเลิกกับเค้าเถอะนะ…”
.
.
.
6เดือนต่อมา…
ฉันที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ที่สวนสาธารณะยามเย็น ที่ที่มีเรื่องราวของฉันกับเขา ที่ๆ เราสองคนตกลงคบกัน ที่ตรงนี้ทำให้เรื่องราวทุกอย่างของฉันกับเขามันย้อนกลับเข้ามาอีก ฉันปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างช้าๆ น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด
ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่ฉันไม่คิดถึงเขา ฉันยังคอยติดตามข่าวของเขาอยู่เสมอ ส่วนตัวฉันคงจะหายไปจากชีวิตของเขาแล้ว เขาไม่ได้ตามง้อ และไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมา เขาคงจะงานยุ่งจนไม่มีเวลา หรือฉันเองอาจจะไม่ได้สำคัญมากพอกับชีวิตของเขาขนาดนั้น และฉันเองก็คงไม่กลับเข้าไปในชีวิตของเขาอีกแล้ว ปล่อยให้เขาอยู่เป็นแค่ความทรงจำดีๆ ของฉันคนนี้ตลอดไปก็พอ….