“บัว.. บัวตื่น…”
“อื้อออ….”
“บัว.. ตื่นได้แล้ว..”
คนตัวสูงโน้มลงไปกระซิบข้างๆหูของคนป่วย ก่อนจะค่อยๆ ไล่สันจมูกรั้นๆ นั้น เกลี่ยไปมาที่พวงแก้มนิ่ม เป่าลมหวยใจร้อนๆ ใส่คนตัวเล็กจนคนที่นอนหลับอยู่ค่อยๆ รู้สึกตัวจากการถกรบกวนพร้อมกับปรือตาขึ้นมา
บัวเห็นใบหน้าพร่าเลือนของ เพื่อนสนิท อยู่บนเตียงเขา
“ฮื้อ… บอส อย่าแกล้งนะ.. เรา.. เรา.. ปวดหัว.. ฮื้ออ..” มือเรียวเล็กยกขึ้นมาดันใบหน้าของคนขี้แกล้งออก แต่อีกคนกลับไม่ให้ความร่วมมือมิหนำซ้ำยังกุมมือของเขาไว้แน่นและรวบขึ้นบนศีรษะ
(ตึกตัก ตึกตัก)
“บัว.. กินยา นายกำลังป่วยนะ”
“อื้อออ.. ”
“ถ้านายดื้อ ฉันสาบานต่อมะพร้าวทะเลทรายบนหัวเตียงนายเลยว่าฉันจะจับยานั่นกรอกปากนาย!”
“!!!”
คนตัวสูงกระซิบขู่ก่อนจะประคองคนป่วยให้ลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงดีๆ มืออีกข้างคว้าไปจับเจ้าตุ๊กตาหวีกล้วยที่อีกคนใช้หนุนนอนมารองหลังคนตัวเล็ก ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวออกจากห้องไปเอาของมาให้อีก
บัวสะลึมสะลือมองตามร่างสูงของบอสที่ดูเหมือนจะไปเตรียมน้ำดื่มมาให้เขา ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะหันไปให้ความสนใจไปที่ยาแก้ไข้ที่วางอยู่ข้างเตียง
ไหนพี่กายบอกว่ายาลดไข้หมดแล้วไม่ใช่หรอ?
“ขมวดคิ้วเข้าไป คิ้วจะผูกโบว์แล้วเนี้ย”
“…”
“ขมวดคิ้วเข้าไปเดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก”
สงสัยได้ไม่นาน บอสก็ถือแก้วน้ำที่มีหลอดเสียบอยู่มาวางที่ข้างหัวเตียง ก่อนที่คนตัวสูงจะหยิบยาขึ้นมาอ่านแล้วแกะใส่ฝ่ามือที่ละเม็ด
“บอส นายไปเอายาพวกนั้นมาจากไหนอะ ทำไมตอนนั้นพี่กายบอกฉันว่ายาแก้ไข้ในตู้หมดแล้วล่ะ” เสียงแหบแห้งของคนป่วยดังขึ้น ให้บอสที่กำลังแกะยาอยู่ถึงกับชะงัก
จะให้บัวรู้เรื่องนั้นไม่ได้