“สารวัตรครับ ผมประกาศให้เจ้าของรถโตโยต้า โคโรน่า สีน้ำเงินทุกคันในจังหวัดมาพบแล้วนะครับ มีไม่เยอะครับ ที่ลงทะเบียนไว้ก็แค่สองคัน คันนึงเจ้าของมาหาแล้วครับ แต่ว่าเป็นคุณยายซึ่งไม่ตรงกับลักษณะของคนร้ายที่สารวัตรบอกไว้ครับ ส่วนอีกคันเจ้าของเสียชีวิตแล้วครับ”
“หืม แล้วคันที่ได้จากกล้องของบ้านหลังนั้นมาจากไหน หรือว่าเป็นรถต่างจังหวัด”
ธีสิสได้แต่สงสัย คนๆ นั้นฉลาดไม่เบา ทางที่ขับผ่านนอกจากกล้องที่ห้องครัวของบ้านหลังนั้นแล้ว ไม่มีกล้องไหนจับได้อีกเลย แม้แต่กล้องตามถนนที่มี เขาขอร้องให้จ่าหวัง และทีมดูรถแบบนี้จากถนนแถวนั้นให้หมดแล้ว แต่ไม่มีซักคัน
ในเมื่อคนร้ายเลือกที่จะใช้เส้นทางหลบหนีกล้องจากถนนทุกเส้น ธีสิสคิดว่าเขาคงต้องหาคนร้ายจากเส้นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิดเลย เริ่มตั้งแต่ถนนข้างบ้านที่จับภาพรถคันนั้นได้ พอรู้ว่าเริ่มมีวิธีหาคนร้ายเจอแล้วธีสิสก็มีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้น เหมือนกำลังจะมีเรื่องไม่ดี หรือว่าวิธีที่เขาคิดจะไม่ถูกต้อง แต่ถ้าไม่ทำวิธีนี้ ตอนนี้เขาก็คิดวิธีอื่นไม่ได้แล้ว
“เดี๋ยวหมวดช่วยเชื่อมโยงเส้นทาง จากถนนฝั่งติดบ้านของที่เกิดเหตุ ไปตามเส้นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิดทุกเส้น ซักสิบกิโลนะ ผมว่าคนร้ายต้องผ่านเส้นทางพวกนั้นแน่”
“ครับ สารวัตร”
ผู้หมวดจากทีมสืบสวนทีมใหม่ ที่อนุญาตให้เขามาช่วยเขาทำคดีนี้ หันหลังเดินออกไปขึ้นรถเพื่อสำรวจเส้นทางเลี่ยงกล้องวงจรปิดของคนร้าย ส่วนตัวธีสิสเองกำลังคิดว่าจะไปดูอาการของณดลที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อเช้าเขายังไม่ได้ไปอีกเลย
“เดี๋ยวสิธีสิส”
เสียงเรียกดังขึ้นก่อนที่ธีสิสจะก้าวขาออกจาก ส.น. เขาหันหลังกลับมาก็เจอกับสารวัตรเอก ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือเขาในการสืบคดีเฉพาะกิจครั้งนี้เป็นอย่างดี
“ครับ สารวัตร”
“นายดูซูบไปจากครั้งที่แล้วนะ ได้พักผ่อนบ้างรึเปล่า ตั้งแต่เช้าฉันเห็นนายวิ่งสืบเรื่องของณดลจนแทบไม่ได้พัก…แล้วยังกินยาตามที่หมอสั่งอยู่ใช่ไหม”
คำถามที่แฝงด้วยความห่วงใยจากสารวัตรเอกดังก้องไปทั่วหัวของธีสิส หัวใจของเขาค่อยๆ สูบฉีดเลือดแรงขึ้น แรงขึ้น
“ผมไม่ต้องกินยาแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง..ครับ”
ธีสิสตอบกลับแล้วรีบหันหลังเดินออกไปอีกครั้ง เหลือไว้เพียงสารวัตรเอกที่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เขารู้จักธีสิสมานาน นานมากพอที่จะรู้ว่าธีสิสมีโรคประจำตัวที่อันตรายมากโรคหนึ่ง เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากเขาที่ย้ายมาจากที่ทำงานเก่าพร้อมกับธีสิส
เท่าที่เขาจำได้ธีสิสต้องรับยานี้ทุกสามเดือน แต่ดูจากสภาพร่างกายของธีสิสตอนนี้ เขาคิดว่าธีสิสต้องไม่ยอมกินยาอีกแน่ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เป็นอะไรมากหละนะ
.
.
.
ธีสิสขับรถกลับมาถึงบ้านของเขาด้วยความอ่อนเพลีย สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ไปเยี่ยมณดล แต่นั้นมันเพราะตอนนี้ใกล้จะหกทุ่มแล้วเขาไม่กล้าขับรถหลังเวลานี้ เพราะเขามักจะไม่รู้สึกตัวนักในช่วงเวลาดังกล่าวจนถึงเช้าก่อนตื่นนอน อาจจะเป็นเพราะทำงานมากไปจนร่างกายต้องการการพักผ่อนก็ได้ ธีสิสคิดแบบนั้น