Site icon เมจิคไทม์ มีเดีย | อ่านนิยายสั้นออนไลน์ฟรี

BESIDE (กูยังอยู่ตรงนี้) : ไอนที

โดย : ไอนที
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อทอย ส่วนไอ้หน้าตี๋ที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมเป็นเพื่อนซี้ของผมเอง มันชื่อเจ เราสองคนเป็นรูมเมทกัน อีกอย่างเราสองคนก็ไปคัดตัวเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาลัยด้วยกัน ซึ่งผลก็ออกมาแล้ว ทั้งผมและไอ้เจติดด้วยกันทั้งคู่ ผมเป็นคนนิ่งๆ ส่วนไอ้เจเป็นคนพูดมาก ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของผมตลอด แต่อาจจะเป็นเพราะพวกเรานิสัยต่างกันคนละขั้ว พอมาอยู่ด้วยกันก็เลยทำให้เราอยู่ด้วยกันได้มั้งครับ เหมือนมา balance ให้กัน

ผมมีแฟนสาวหวานใจสุดที่รักของผม ที่ปกติเธอก็จะมานั่งดูผมซ้อมว่ายน้ำอยู่ทุกวัน ส่วนไอ้เจน่ะหรอ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันไม่มีแฟนสักที สาวๆ ก็ตั้งเยอะแยะ หน้าตามันก็หล่อ ตี๋ ขาว หุ่นดี ถอดเสื้อโชว์ซิกแพกก็บ่อย แต่ทำไมยังไม่มีสาวๆ มาอวดผมสักทีก็ไม่รู้ ผมถามทีไรมันก็บอก ก็มันไม่ได้ชอบ ผมเลยแล้วแต่มันเลยละกัน อยากจะโสดจนตายก็เชิญ
.
.
.

ณ สระว่ายน้ำมหาลัย…

“ไอ้ทอย ไอ้ขี้กาก” เสียงของไอ้เจร้องมาเย้ยผม ที่วันนี้ผมทำเวลาได้ไม่ดีเท่าเมื่อวาน

“กูจะคอยดูมึงนะไอ้เวร” ผมร้องท้าทายมัน เพราะมันกำลังจะว่ายน้ำจับเวลา และแล้วมันก็ทำเวลาได้ช้ากว่าผม

“ไงล่ะมึง ดีแต่ปากไอ้ควาย” ผมเยาะเย้ยมันกลับ

“วันนี้กูแกล้งแพ้เฉยๆ เว้ย กูไม่อยากเห็นคนแถวนี้ร้องไห้ ไปฟ้องแฟนว่าว่ายน้ำแพ้กู” ไอ้เหี้ยนี่ปากมันน่าถีบจริงๆ

“เออว่าแต่ทำไม 2-3 วันมานี้กูไม่เห็นพลอยมาดูมึงเลยวะ”

“มึงเสือกไรกับเรื่องของกูเนี่ย”

“ก็เปล๊า กูแค่ห่วงว่าเพื่อนกูจะโดนสวมเขาน่ะสิ ยิ่งโง่ๆ อยู่” ไอ้เจพูดพร้อมกับเอามือมาผลักหน้าผากผม ไอ้นี่วอนตีนจริงๆ

“พลอยเค้าไปทำงานกับเพื่อนเว้ย”

“ก็ดี๊”
.
.
.

วันต่อมา…

“พลอยคะ วันนี้พลอยจะมาหาทอยรึเปล่า”

“อ่อ พอดีวันนี้พลอยต้องทำงานส่งอ่ะ อาจารย์เพิ่งสั่งงานใหม่ พลอยคงไปดูทอยไม่ได้ พลอยขอโทษน๊า”

“อ่อ ไม่เป็นไรครับ ไว้วันหลังก็ได้” ช่วงนี้พลอยคงยุ่งแหละ ปี 3 แล้วงานก็น่าจะหนักขึ้นเหมือนกับผมแหละ เพราะทุกวันนี้หลังซ้อมว่ายน้ำเสร็จผมก็ต้องเคลียร์งานเป็นกองเลย

วันต่อมา…

“วันนี้พลอยจะมาหาทอยมั้ยน๊า”

“พอดีพลอยยังปั่นงานไม่เสร็จเลยทอย ไว้วันหลังนะ”
.
.
.

วันต่อมา…

“อยากเจอพลอยแล้ว วันนี้ทอยจะได้เจอพลอยมั้ยน๊า”

“ได้แน่นอน เดี๋ยววันนี้พลอยจะไปหานะคะ” และแล้วพลอยก็ว่างมาหาผมสักที ผมว่าแล้วว่าพลอยคงไม่นอกใจผมหรอก พลอยคงยุ่งจริงๆ

“โอเคครับ เจอกันนะครับพลอย”

ผมวางสายจากพลอย แล้วผมก็ไปปลุกไอ้เจที่กำลังนอนอยู่ ให้ลุกไปเตรียมตัวไปซ้อมว่ายน้ำกัน

“ไอ้เจ ตื่นเร็ว”

“มึงจะรีบไปไหนวะ”

“ก็เนี่ยอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาซ้อมแล้ว อย่าปล่อยให้โค้ชรอนานดิวะ” ผมเซ้าซี้ไอ้เจให้รีบลุก จะได้ไปซ้อมสักที เพราะวันนี้พลอยจะมาหาผม ผมต้องไปเตรียมตัวสักหน่อย กว่าจะได้เจอกัน

ไลน์ ! เสียงไลน์ของผมดังขึ้น พลอยส่งอะไรมานะ

“ทอย พลอยว่าพลอยคงไปไม่ได้แล้วแหละ เพราะพลอยได้รวมสไลด์ นี่เพื่อนเพิ่งส่งมาบอก พลอยขอโทษด้วยนะคะ” และวันนี้พลอยก็ไม่ว่างมาหาผมอีกตามเคย
.
.
.

ณ สระว่ายน้ำมหาวิทยาลัย…

“นี่ไอ้ทอย ช่วงนี้แฟนมึงหายไปไหนวะ กูไม่เห็นหน้านานละ” ไอ้เจถามผม

“เขาติดงานน่ะ”

“มึงแน่ใจนะว่าแฟนมึงติดงานจริงๆ อะไรจะงานเยอะขนาดนั้นวะ”

“ไม่รู้เว้ย มึงนี่ก็เสือกเก่งเหมือนกันนะ เรื่องชาวบ้านเนี่ย” ผมพูดพร้อมกับตบหัวไอ้เจไปหนึ่งที

“ใครบอกว่ากูชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน กูชอบเสือกเรื่องของมึงคนเดียวเว้ยยย” ไอ้เจพูดแล้วก็หนีไปว่ายน้ำเฉย

“ไอ้นี่มันกวนประสาทจริงๆ”

แล้วผมกับไอ้เจก็ไปซ้อมว่ายน้ำกันจนถึงหกโมงเย็น ขณะที่ผมกับไอ้เจกำลังจะไปอาบน้ำ แล้วเปลี่ยนชุดกลับห้อง ทันใดนั้นเสียงไลน์ของผมก็ดังขึ้น

ไลน์! ไอ้แท็คส่งอะไรมานะ “ไอ้ทอยมึงเห็นนี่ยัง” ผมไม่รู้ว่าไอ้แท็คมันส่งรูปอะไรมาให้ผมดูพอผมเปิดเข้าไปก็พบว่า เป็นภาพของผู้ชายคนหนึ่งถือป็อบคอร์นแล้วยื่นไปให้ผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงในภาพคนนั้นก็คือ พลอย…

“กูมาดูหนัง แล้วเห็นพลอยมาดูหนังกับผู้ชาย กูเลยส่งให้มึงดู พลอยได้บอกมึงเปล่าวะ” ไอ้แท็คพิมพ์มาถามด้วยความเป็นห่วง

เปล่าว่ะ” ผมตอบไอ้แท็คไป ความรู้สึกผมตอนนี้เป็นความรู้สึกของคนโดนสวมเขาสินะ ผมโดนพลอยโกหกผมมาตลอด อารมณ์ผมตอนนี้ทั้งเสียใจและโกรธพลอยมาก ผมจึงโทรหาพลอยไป

“ว่าไงคะทอย”

“พลอยทำไรอยู่ครับ”

“อ่อพลอยกำลังรวมสไลด์อยู่เลย ทอยมีอะไรรึเปล่าคะ” ผมได้ยินพลอยพูดแบบนั้น ยิ่งทำให้ผมเสียใจเป็นอย่างมาก ที่พลอยตั้งใจจะโกหกผม พลอยคงไม่รู้ว่าผมจับได้แล้วว่าพลอยแอบไปดูหนังกับผู้ชายคนอื่น ทำไมพลอยถึงทำกับผมได้ขนาดนี้

“หรอ”

“ทำไมทอยถามพลอยอย่างงั้นล่ะ”

“พอเถอะพลอย ทอยรู้แล้วว่าพลอยไปดูหนังกับผู้ชายคนอื่นเลิกโกหกทอยสักที แค่นี้ทอยก็รู้สึกเหมือนเป็นไอ้โง่มากพอแล้ว”

“ทอย พลอยขอโทษ”

“ไม่เป็นไร เราเลิกกันนะครับพลอย” ผมบอกเลิกกับพลอยไป แล้วผมก็วางสาย ความรู้สึกผมตอนนี้เหมือนโดนมีดมากรีดตรงกลางหัวใจ ผมทนไม่ไหวจึงร้องไห้ออกมา

“เฮ้ย เป็นไรวะไอ้ทอย” ไอ้เจที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อที่จะไปอาบน้ำ เดินออกมาเจอผมร้องไห้พอดี

“ไอ้เจ…” ผมพูดอะไรไม่ออก เพราะตอนนี้ความรู้สึกของผมมันถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี ผมเข้าไปกอดไอ้เจ เพราะตอนนี้ผมเหลือแค่มันคนเดียวแล้วที่ผมเชื่อใจได้

“เฮ้ย มึงเป็นไรวะ” ไอ้เจ กอดผมพร้อมกับตบไหล่ผมเบาๆ เพื่อปลอบผม

“กูเลิกกับพลอยแล้วว่ะ”

“ห้ะ เป็นไปได้ไงวะ” ไอ้เจตกใจ มันคงไม่คิดว่าผมกับพลอยจะมาเลิกกันง่ายๆ แบบนี้ เพราะแต่ก่อนเราดูเหมือนจะรักกันดี

“มันเป็นไปแล้วมึง ขอกูอยู่แบบนี้สักพักนะ” ผมขอกอดไอ้เจอีกสักพัก เพราะตอนนี้มีแค่มันคนเดียวที่จะทำให้ผมดีขึ้นได้

“เออๆ ได้ๆ ไม่เป็นไรนะมึง กูอยู่ตรงนี้แล้ว” แล้วไอ้เจก็ลูบหัวผมเบาๆ พลางพูดปลอบไปเรื่อยๆ ผมต้องขอบคุณไอ้เจจริงๆ หากไม่มีไอ้เจสักคน ผมคงไม่รู้ว่าจะไประบายกับใครดี

“ขอบคุณนะมึง”

ณ หอพัก…

หลังจากที่ผมร้องไห้อยู่นานที่สระน้ำ ไอ้เจก็พาผมกลับมาห้อง ดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะไข้ขึ้น

“ตัวมึงร้อนจี๋เลยว่ะทอย”

“มึงนอนพักก่อน เดี๋ยวกูไปซื้อยากับโจ๊กร้อนๆ มาให้ จะได้รู้สึกดีขึ้น” ไอ้เจพูดเสร็จ ก็พาผมไปนอน แล้วมันก็ออกไปซื้อของ
.
.
.

แอ๊ดดดด เสียงเปิดประตูเข้าห้องมา แล้วไอ้เจก็เดินมาแตะตัวผมอีกครั้ง

“เชี่ย ไอ้ทอย ตัวมึงร้อนมาก รอนี่นะเดี๋ยวกูไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้”

“มึงนี่นะ รักแต่คนอื่น ไม่รักตัวเองบ้างเลย ชอบทำให้กูเป็นห่วงอยู่เรื่อย” ไอ้เจบ่นให้ผมไป พลางๆ กับเช็ดตัวให้ผม ผมดีใจมากเลยที่มีมันอยู่ข้างๆ ผมแบบนี้ ไม่ว่าที่ผ่านมาผมจะเจอเรื่องอะไร ไอ้เจก็จะเป็นคนเดียวที่ช่วยผมแก้ปัญหาตลอด จนกระทั่งตอนนี้ผมป่วย มันก็มาดูแลผมอีก

“บ่นจังเลย” ผมพูดแซวไอ้เจ

“บ่นดิ มึงดูสภาพมึงตอนนี้ สมควรโดนกูบ่นมั้ยล่ะ”

“เออๆ กูยอมๆ  ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง”

“รู้ตัวก็ดี”

“อ่ะ เช็ดตัวเสร็จแล้วก็ลุกมากินโจ๊กหน่อยมา จะได้กินยาแล้วรีบนอน จะได้หายไวๆ”

“ไม่กินได้มั้ย กูไม่หิวเลย”

“กินสักหน่อยก็ได้ จะได้กินยา” เสียงนิ่งๆ ที่ดูเป็นห่วงผมของไอ้เจ ทำให้ผมไม่กล้าที่จะปฏิเสธมัน

“ก็ได้ๆ ว่าแต่ทำไมดูเป็นห่วงกูขนาดนี้ คิดไรกับกูป้ะเนี่ย” ผมพูดแซวๆ ไอ้เจ ที่มีท่าทีเป็นห่วงผมอย่างมาก

“ก็เปล่า กูแค่กลัวมึงตาย กูขี้เกียจย้ายของออกจากหอเฉยๆ  พูดมากมึงเอาไปกินเองเลย อย่าเอาไข้มาติดกูนะมึง” ไอ้เจพูดเสร็จ ก็ยัดถ้วยโจ๊กใส่มือผม

“ไม่เอา นี่กูป่วยนะ มึงก็ต้องดูแลกูดิวะ” ผมไม่ยอม เพราะกว่าผมจะมีโอกาสใช้ให้ไอ้เจทำนั่นนี่ให้ไม่ใช่ง่ายๆ

“งั้นก็อย่าพูดมาก กินเข้าไป” ไอ้เจว่าผม แล้วก็ตักโจ๊กยัดเข้าปากให้ผมกิน ไอ้เจนี่มันก็มีประโยชน์เหมือนกันแฮะ
.
.
.

หลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จ เจมันก็หายามาให้ผม

“อ่ะนี่ยา กินแล้วก็ไปนอนจะได้หายไวๆ”

“โอเคครับคุณหมอ” ผมแกล้งแซวไอ้เจ

“ไหนขอหมอดูซิ ตัวหายร้อนรึยัง” แล้วไอ้เจมันก็มาแตะหน้าผากผมดูอีกครั้ง

“หายร้อนแล้วนิ ไม่ตายแล้ว”

“กูตายกูจะมาหลอกมึงคนแรก”

“กูไม่กลัวมึงหรอก กูมีพระโว้ย ไปๆ กินยาแล้วก็นอน” ผมกินยาเสร็จไอ้เจก็ไล่ให้ผมนอนทันที ส่วนมันก็คงไปนั่งทำงานต่อ

เวลา 02.00 น.

ผมรู้สึกตัวขึ้นมาตอนดึกๆ นี่ก็ 7 ชั่วโมงแล้วที่ผมหลับไป แต่ทำไมโคมไฟยังเปิดอยู่ ผมมองไปที่โต๊ะอ่านหนังสือก็เห็นว่าไอ้เจฟุบหลับอยู่ตรงนั้น ทำไมถึงได้ไปนอนตรงนั้นนะ ไปปลุกมันมานอนดีๆ ดีกว่า

“เจ เจ ตื่นๆ” ผมเรียกชื่อพร้อมกับตบหน้ามันเบาๆ แต่ไอ้เจก็ยังไม่ตื่น ผมเลยเปิดคอมดูว่าไอ้เจทำงานอะไรทำไมถึงทำถึงดึกขนาดนี้ พอผมเปิดคอมขึ้นมาดู ก็เห็นงานที่ไอ้เจทำเสร็จแล้ว เปิดไว้อยู่ นี่มันงานของผมนิ ทำไมไอ้เจได้มาทำงานให้ผมล่ะ อ้อ ผมนึกออกแล้วงานนี้ผมต้องส่งก่อน 9 โมงเช้า นี่ไอ้เจมันรู้ว่าผมยังไงก็คงทำไม่ทันแน่ๆ มันเลยทำให้ผมหรอ ทำไมไอ้เจถึงใส่ใจผมขนาดนี้นะ

“เจ เจ ตื่นไปนอนดีๆ เร็ว” ผมเรียกอยู่นานแต่ไอ้เจก็ไม่ยอมตื่น สุดท้ายผมก็ต้องอุ้มมันมานอน นี่มันเกินไปแล้วนะ สรุปใครป่วยวะเนี่ย
.
.
.

เช้าวันต่อมา…

“ตื่นนานแล้วหรอวะ” ไอ้เจที่เพิ่งตื่นถามผม

“เออ ตื่นนานแล้ว”

“ดีขึ้นยังมึงน่ะ” เจมันถามถึงอาการไข้ของผม

“ดีขึ้นแล้ว ว่าแต่มึงนอนพอยัง เมื่อคืนก็นอนตั้งดึก กูได้อุ้มไปนอน ตัวหนักชิบหาย”

“นี่มึงอุ้มกูมานอนหรอ”

“เออดิ กูเห็นมึงฟุบหลับอยู่นี่ ดีนะที่กูรู้สึกตัวพอดี ไม่งั้นมึงปวดตัวแน่”

“เออๆ ขอบใจเว้ย” ไอ้เจขอบใจผมที่พามันมานอน

“ไม่เป็นไรกูต่างหากที่ต้องขอบใจมึง ที่มึงอุตส่าห์ทำงานให้กู ขอบใจมากๆนะเว้ย”

“มึงเห็นงานแล้วหรอ”

“เห็นแล้ว ขอบใจอีกครั้งนะมึง”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร กูเต็มใจ สภาพมึงเมื่อวานยังไงก็ทำไม่ทัน กูทำของกูเสร็จไวพอดี เลยทำให้มึงด้วย เดี๋ยวไม่มีงานส่ง”

“ทำไม…มึงถึงดีกับกูขนาดนี้วะ” ผมถามไอ้เจด้วยเสียงนิ่งๆ

“ถามอะไรวะ เป็นใครเขาก็ทำแบบกูทั้งนั้นแหละ” ไอ้เจตอบด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก

“เฮ้ยกูถามจริงๆ” ผมยังไม่ละความพยายามที่จะได้คำตอบ

“มึงอยากรู้จริงๆ หรอวะ” หน้าของไอ้เจถอดสี เหมือนกลัวที่จะบอกความจริงกับผม

“เออบอกกูมาเถอะ อย่างน้อยก็ให้กูได้รู้เรื่องของมึงบ้าง”
.
.
.

แล้วดูเหมือนว่าไอ้เจ มีท่าทีจะบอกความจริงกับผมแล้ว

“มึงจำได้มั้ยว่าทำไมกูถึงไม่มีแฟนสักที” ไอ้เจถามผม

“จำได้สิกูถามมึงตั้งบ่อย”

“เออนั่นแหละ ที่กูไม่มีแฟนสักที เพราะกูกำลังสับสน กูกำลังสบสนว่า จริงๆ แล้วกูชอบผู้หญิงหรือชอบผู้ชายกันแน่ เพราะตั้งแต่เรามาอยู่ด้วยกัน กูก็เหมือนรู้สึกดีกับมึงมาตลอด รู้สึกดีที่มีมึงอยู่กับกูในทุกๆ เรื่องราว แต่กูก็ยังไม่มั่นใจว่าความรู้สึกของกูที่มีต่อมึงตอนนั้นมันคืออะไรกันแน่ แต่พอมาเมื่อคืน กูเห็นมึงป่วยขนาดนั้น กูก็อดที่จะเป็นห่วงมึงไม่ได้ กูเป็นห่วงมึงมากเลยนะเว้ย และนั่นแหละมันเลยทำให้กูรู้ความรู้สึกของกู ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร กูว่า… กูชอบมึงว่ะ

“นี่มึงไม่ได้ล้อกูเล่นใช่มั้ย” ผมถามคนตรงหน้า เพราะปกติไอ้เจชอบอำผมเล่นบ่อยๆ

“กูพูดจริง แต่กูก็ไม่ได้จะขอให้มึงมาชอบกูนะ เดี๋ยวกูจะพยายามเลิกชอบมึงเอง เราจะได้เป็นเพื่อนรักกันไง”

“มึงจะทำได้หรอวะ”

“ทำอะไร” ไอ้เจถามผม

“ก็เลิกชอบกูไง มึงจะทำได้หรอ”

“ไม่รู้ว่ะ ถ้าไม่ได้ มึงจะรังเกียจกูมั้ยล่ะ”

“กูจะรังเกียจมึงทำไม”

“ไม่รู้ดิ”

“ถ้าเลิกชอบกูไม่ได้ก็ไม่ต้องเลิก มึงไม่ได้ขอให้กูมาชอบมึง กูก็ไม่ได้ขอให้มึงเลิกชอบกูนิ ทำไมต้องเลิกชอบล่ะ ไม่แน่น๊า ลึกๆ กูอาจจะชอบมึงเหมือนกันก็ได้”

“โกหกมันบาปนะเว้ย”

“กูจะโกหกมึงทำไม ดีซะอีกมึงชอบกู มึงจะได้อยู่รับใช้กูไปนานๆ”

“นี่มึงคิดแบบนี้หรอ ไอ้ควายยยย”

“กูล้อเล่นได้มั้ยล่ะ”

“มึงไม่ต้อง กูรู้มึงคิดจริง ไอ้เวร”

“กูเปล๊า”

“มึงมานี่เลยนะ” แล้วไอ้เจก็วิ่งไล่เอาหมอนฟาดผม

แล้วเราก็เถียงกันยาววววววววววววว มีไอ้เจไว้เถียงกันแบบนี้ก็สนุกดีแฮะ 🙂

Exit mobile version