แสนคำลือ : ก.ไกรศิรกานท์

นิยายสั้นย้อนยุค ฉากสมัยโบราณ อิงประวัติศาสตร์ (Historical/ History)

ครูของเขาเคยบอกว่าภาพเขียนสีทั้งหมดที่พบในบริเวณนี้เขียนขึ้นด้วยสีแดง ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากแร่เหล็กสีแดงที่มีชื่อเรียกว่า “Hematite” ซึ่งมักพบแทรกอยู่ในหินปูนและหินดินดาน สันนิษฐานว่าน่าจะนำมาจากดอยผาแดง ซึ่งเป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปจากแหล่งโบราณคดีประตูผาทางทิศตะวันออกประมาณห้ากิโลเมตร

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับภาพจิตรกรรมแห่งอดีตกาลเหล่านั้น หนุ่มน้อยก็ถึงกับสะดุ้งเสียหลัก เมื่อฝูงค้างคาวเจ้ากรรมพากันแตกฮือบินออกมาจากซอกหลืบใดหลืบหนึ่งของถ้ำที่ค่อนข้างมืด

อารามตกใจทำให้เด็กหนุ่มเสียจังหวะการทรงตัว จะก้าวไปข้างหน้าแข้งขาก็พันกัน จนเป็นเหตุให้เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีต้องล้มลงไปนอนไม่เป็นท่าอยู่ริมฝาผนังถ้ำนั่นเอง
.
.
.

เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนศีรษะของเขาจะกระแทกเข้ากับก้อนหินหรืออะไรสักอย่างหนึ่งอย่างจัง แต่ก็ยังดีที่หัวไม่แตกจนเลือดตกยางออก จะมีก็เพียงแต่อาการปวดน้อย ๆ เขาลองแอบเอามือคลำ ๆ ดู ก็รู้สึกคล้ายกับว่ามันจะโนขึ้นมา

ธัญวรัตน์ค่อย ๆ ปรือหนังตาขึ้น ภายในถ้ำยังคงมืดมิด หากแต่ก็ยังมีแสงสลัว ๆ พอให้มองเห็นภาพเชือกเส้นยาวสีดำมะเมื่อมที่กำลังเคลื่อนไหวช้า ๆ … เลื้อยอยู่บนพลาญหินขนาดย่อมเหนือศีรษะของเขา ขนาดลำตัวของมันหากกะด้วยสายตาแล้ว ก็คงจะมีขนาดพอ ๆ กับลำแขนของเด็กหนุ่มมอ.ปลายอย่างเขานี่แหละ

งู…

เขาบอกตัวเองได้แค่นั้น เด็กหนุ่มก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครสักคนเดินออกมาจากมุมใดมุมหนึ่งของถ้ำ แล้วเป่ามนต์ให้เขาหลับใหลไปโดยพลัน…ภายใต้อ้อมกอดแห่งความสลัวรางนั่นเอง
.
.
.

ธัญวรัตน์รู้สึกเหมือนว่าภายนอกถ้ำจะมีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างไปจากตอนที่เขาเดินเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นสักต้นใหญ่ใบดกหนาซึ่งดูเหมือนว่าจะประกอบกันเป็นป่าที่ทึบกว่าปกติ…ทึบกว่าตอนที่เขาเดินเข้าไปภายในถ้ำเมื่อสักครู่ก่อนหน้านี้

อีกทั้งร้านจำหน่ายชา กาแฟสด น้ำหวาน และขนมขบเคี้ยว หรือแม้กระทั่งชาวบ้านที่ชอบหอบเอาของป่ามาวางขายในบริเวณใกล้เคียง ก็ดูเหมือนจะอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีห้องน้ำสาธารณะที่จัดไว้ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่มีศาลเจ้าพ่อประตูผาที่คุณครูเพิ่งจะเอ่ยปากชวนเขาเข้าไปสักการะอยู่หยก ๆ เมื่อครู่นี้

ไม่มีแม้แต่เพียงร่อยรอยว่าเคยมี !