“ช่วยด้วย…ช่วยด้วย”
เจ้าของเสียงวิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามายังต้นประดู่ร่างโชกไปด้วยเลือด
“ช่วยด้วย…ฉันถูกเสือกัด”
นายหนุ่มสะพายปืนที่หัวไหล่เตรียมจะลงจากห้างทันที แต่พรานเดี่ยวเหนี่ยวหัวไหล่เอาไว้
“อย่าลงไป…อย่านะ”
นายหนุ่มสะบัดตัวหลุดจากเงื้อมมือที่จับไว้ลงจากห่างไปอย่างรวดเร็วพอเท้าถึงพื้นดินเท่านั้นร่างของชายหนุ่มที่โชกเลือดก็กลับกลายเป็นเสือสมิงมันกระโจนพรวดเดียวคาบนายหนุ่มผู้ชะตาขาด สะบัดร่างใหญ่เหมือนยักษ์ขึ้นไปบนหลังของมัน แล้ววิ่งเตลิดเข้าป่าหายไป
“เสร็จมัน…ไอ้หนุ่มเอย” ผู้ใหญ่สันต์ปลงออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้น
พรานเดี่ยวกัดฟันด้วยความโกรธนายหนุ่มที่ห้ามไม่ฟัง แต่โกรธเสือร้ายที่มันเจ้าเล่ห์นัก
“เราจะทำยังไงกันดี” ผู้ใหญ่สันต์หันมาถาม
“เราต้องอยู่ที่นี่แหละ จะอยู่สักกี่วันก็ต้องอยู่ มันต้องย้อนมาอีกคืนต่อไป เพราะได้ใจซะแล้ว”
ผู้ใหญ่สันต์อยู่กับพรานเดี่ยวกลางวันลงมาหาอาหารรับประทานกันพอตกค่ำก็ปืนขึ้นไปนั่งห้างตามเดิม เดือนยังหงายทอแสงแจ่มจรัสอยู่เหมือนคืนแรกทั้งสองเฝ้าคอยการมาของมันด้วยความอดทนแล้วมันก็มา
จริง ๆ แต่ไม่ใช่เสือ เป็นหญิงชราหลังโกงคนหนึ่งเดินท่อมๆ มาถึงต้นประดู่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาดรุ่งวิ่ง
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ยายหนีเสือมา”
ผู้ใหญ่หันไปสบตากับพรานเดี่ยวท่ามกลางแสงจันทร์ พรานไม่พูดอะไรเลย เขาบรรจุลูกกระสุนลงอาคมเรียบร้อยแล้ว จึงประทับปืนเล็งไปที่ร่างของหญิงชรา
ผู้ใหญ่กลั้นใจ หากเป็นคนจริง ๆ พรานเดี่ยวติดคุกแน่
“เปรี้ยง”
กระสุนปืนลงอาคมเข้าตรงแสกหน้าของหญิงชราอย่างแม่นยำ หญิงชรากระโจนตัวลอยขึ้นไปบนอากาศกลายเป็นเสือสมิงยาวแปดศอกมันตกลงมายังพื้นดินสิ้นฤทธิ์ จบชีวิตเหี้ยมของมันเสียที และเราควรจะเรียกมันว่าเสือปีศาจมากกว่า
หลังจากวันที่เสือตายก็ไม่มีข่าวคราวว่าเสือสมิงเข้ามากินสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านอีกเลย สำหรับศพนายหนุ่มได้เพียงกระดูกกลับมาบ้าน
มีทั้งดีใจและเสียใจพร้อมกัน มันคุ้มค่าที่สุดแล้วที่เขาตายอย่างวีรบุรุษเพื่อช่วยขจัดสิ่งเลวร้ายให้แก่คนในหมู่บ้านและคนในละแวกอื่นด้วย