การประชุมในวันต่อมา รายชื่อผู้ที่จะได้เดินทางไปทำงานที่นิวซีแลนด์ก็ออกมาครบ รองบรรณาธิการบริหาร หัวหน้ากอง หัวหน้าฝ่ายแฟชั่น ช่างภาพ นางแบบ-นายแบบ ช่างแต่งหน้าและทำผม รวมทั้งสิ้น 7 คนในทีมที่จะต้องเดินทาง กองบรรณาธิการทุกคนต่างก็ยินดีและเห็นสมควร เพราะการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศครั้งนี้ เป็นงานชิ้นใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากต่างประเทศ ไม่สามารถทำงานพลาดได้
.
.
.
บรรยากาศภายในสนามบิน ครึกครื้นไปด้วยผู้โดยสารชาวไทย ที่ส่วนใหญ่ต่างเดินทางไปเที่ยวนิวซีแลนด์เป็นครอบครัว เพราะช่วงเดือนมิถุนายน- สิงหาคม จะเป็นช่วงฤดูหนาวของนิวซีแลนซ์ ซึงจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 16-26 องศาเซลเซียส บางครอบครัวก็ไปดูสถานที่เรียนให้กับลูกๆ ซึ่งนิวซีแลนด์ ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีนักเรียนไทยไปเรียนเยอะที่สุดประเทศหนึ่ง เพราะเป็นประเทศที่มีความเป็นธรรมชาติสูง กิจกรรมทางกีฬาโดดเด่น อาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ และเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชนเผ่าเมารี อีกด้วย
กระเป๋าเดินทางของวารี ค่อนข้างจะเติมไปด้วยเสื้อที่มีเนื้อผ้าหนาแต่ก็มีความเป็นแฟชั่นอยู่ในตัว ลุงเนย์ของทีมงานดูจะสดชื่นแจ่มใสและเสียงดังที่สุดในกลุ่ม เพราะมัวแต่แซวคนนั้นแซวคนนี้ วารีกับลุงเนย์ได้นั่งที่ติดกันเพราะชื่ออักษรที่นำหน้าอยู่ติดๆกัน
.
.
.
เมื่อเข้านั่งประจำที่นั่งบนเครื่อง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่วารีได้อยู่ใกล้ชิดลุงเนย์ที่สุดเป็นครั้งแรก กลิ่นน้ำหอมชื่อดังสไตล์อาร์ตๆ กวนๆ แบบ Jean paul Gaultier (ฌอง ปอล โกลติเยร์) น้ำหอมชื่อดังจากเมืองฝรั่งเศล ลอยมากระทบกจมูก เพราะอยู่ใกล้แค่เอื้อม วารีแอบคิด “ก็เน๊อะ เลือกน้ำหอมได้เหมาะกับตัวเองดีแท้ กวนแต่เซ็กซี่”
.
.
.
เครื่องบินขึ้นได้ไม่นาน หน้าตากวนๆ ปนความเจ้าชู้ไม่ทิ้งลาย ก็มองมาที่วารี
“ มีแฟนหรือยังวารี” เสียงทุ้มห้าวถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“ ยังคะลุงเนย์ เบื่อมีแล้วน่ารำคาญ ” ฉัตวาตอบโดยไม่ต้องคิด ลุงเนย์หัวเราะหึหึ แบบไม่สามารถคาดเดาความหมายในเสียงหัวเราะของลุงเนย์ได้
“ แล้วเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือยัง” อ้าอีลุง เล่นตรูซะแล้ว วารีอึ้ง! แต่ก็พยายามคิดในทางบวกว่า ลุงแกก็ทะลึ่งตึงตังแบบนี้กับทุกคนแหละ ทำตัวเป็นหมาหยอกไก่ กับกองบรรณาธิการสาวๆ ไปทุกคน แต่ไม่มีใครเอาด้วยกับแก เพราะเห็นแกเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ แก ก็เลยได้แค่สนุกปากไปวันๆ ผู้ชายแบบนี้จะทำเป็นกลัวไม่ได้ ต้องฮึดสู้