หลังจากนั้นเราพาพี่ไปหาครูปกครองคนนั้น เขาก็คุยกันอยู่พักใหญ่ อยู่ดีๆพี่แกก็ได้เป็นลูกรักของครูคนนั้นเฉยเลย เราเห็นแล้วดีใจ นึกถึงทีไรก็ยิ้ม มีความสุขทุกครั้งเวลาพูดถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบจนกระทั่งถึงวันที่พี่เขาจบม.6
เราตั้งใจไว้ว่าเราจะรอจนกว่าพี่เขามีที่เรียน(พี่เขาจะเรียนต่อป.ตรี) เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วเราจะพาเขาไปเปิดตัวกับที่บ้าน แต่ฝันสลาย หนึ่งวันก่อนปัจฉิมนิเทศพี่ ม.6 จะมาถึง เราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งทักมาหาพี่เขาพร้อมทั้งสารภาพรัก ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาน่ารัก ผิวขาวและพูดจาดี ซึ่งดูแล้วต่างจากเรามากเลย แต่พี่เขาก็ตอบกลับผู้หญิงคนนั้นไปตามมารยาทแต่ไม่ได้บอกเธอว่ามีแฟนแล้ว เราเห็นแล้วอารมณ์เสียบวกกับความงี่เง่าของเราในตอนนั้น เราจึงปิดทุกการติดต่อกับพี่เขา แล้วเข้าใจไปว่าพี่แกมีคนอื่นแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้เราก็ทะเลาะกันเรื่องมือที่สามกันบ่อยๆ และทำให้เราทั้งคู่ต้องเลิกกันไปตั้งแต่วันนั้น และไม่ได้เจอกันอีกเลย
.
.
.
อีก 1 ปีต่อมา
เราเจอกันโดยบังเอิญที่ร้านนมสดที่เราเคยไปตอนที่คบกัน เราทั้งคู่ก็ตัดสินใจเปิดใจคุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมาพร้อมทั้งอัพเดตชีวิตของกันและกัน พี่บอกเราว่า
“ที่พี่ไป เพราะคิดว่าเรามีคนใหม่ พี่อยากให้เราเจอคนที่ดีกว่านี้ เราเหนื่อยกับพี่มามากพอแล้ว”
เรารู้สึกผิดมากที่ทำแบบนั้นกับเขา ทั้งๆที่เราทั้งคู่ต่างคนต่างไม่ได้มีคนอื่นและต้องเลิกกันไปเพราะความเข้าใจผิดของเราแท้ๆ แต่ในวันนี้เราทั้งสองต่างก็มีแฟนแล้ว การที่เราจะกลับมาหากันคงเป็นไปได้ยาก เราจึงตกลงกันว่าถึงเราจะเป็นแฟนกันไม่ได้ ถึงความรักจะจบลง แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็นัดเจอกันอีกครั้งพร้อมพาแฟนมาแนะนำให้รู้จัก และตั้งแต่วันนั้นพี่คนนั้นคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันในวันนี้ “เพื่อนที่ดีที่สุดของน้อง” เรื่องนี้เราใช้เตือนสติตัวเองเสมอในทุกครั้งที่เรามีความรัก