ในร้านกาแฟ
หลังจากที่เลิกเรียนมาได้ไม่ถึงชั่วโมง ฝ้ายกับสนก็มาหาเครื่องดื่มเย็น ๆ และของกินเล่นในร้านกาแฟซึ่งห่างจากโรงเรียนของพวกเขาพอสมควรก่อนกลับบ้านกัน เพราะสนต้องรีบกลับบ้านไปแต่งเพลงเพื่อเตรียมแข่งต่อ เวลานี้หญิงสาวก็ยังคงรู้สึกว่าถูกสายตาคู่หนึ่งที่มีรังสีประหลาดมองพวกเขาจากนอกหน้าต่างร้าน เธอจึงตัดสินใจว่าควรจะแอบหันไปมองสักนิดให้รู้กันไปเลยว่าเป็นใครกันแน่!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฝ้ายจึงค่อย ๆ หันหน้าไปด้านข้างกระจกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ก่อนจะเหลือบไปมองด้วยหางตาก็ต้องสะดุ้งไป เพราะอีกฝั่งหนึ่งของถนนหน้าร้านกาแฟมีผู้ชายคนหนึ่งที่มีผิวคล้ำ รูปร่างสูงแต่กลับผอมแห้ง แต่งกายด้วยชุดคลุมสีดำยาวลากพื้น และดวงตาสีแดงก่ำ กำลังจ้องเขม็งมายังฝ้ายกับสนที่นั่งรอเมนูที่สั่งอยู่ ราวกับมีจุดประสงค์ร้ายบางอย่างที่ฝ้ายรู้สึกได้ และที่มั่นใจอีกอย่างก็คือ “ชายผู้นี้ไม่ใช่คน!!!” เพราะร่างที่เธอเห็นนั้นโปร่งแสง แถมผู้คนยังเดินผ่านหน้าร่างนั้นปกติราวกับไม่เห็นตัวตนที่ยืนอยู่แต่อย่างใด
“สน…เห็นอะไรไหม?” ฝ้ายรีบหันกลับมาถามสนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ก็ไม่ แต่ว่า…สนแค่รู้สึกเหมือนมีใครบางคนมองเราอยู่ ฝ้ายก็รู้สึกเหมือนสนอีกแล้วใช่ไหม”
“ใช่ แต่คราวนี้ฝ้ายเห็นแล้วนะว่า ‘เป็นใคร’”
“ใครหรือฝ้าย?” สนวางแก้วชานมเย็นที่ตัวเองกำลังดื่มลงบนโต๊ะทันที พลางถามแฟนสาวด้วยสีหน้าจริงจัง
“สนอาจจะไม่เชื่อฝ้ายก็ได้ ฝ้ายเห็นว่า…เขาเป็นวิญญาณผู้ชายตัวสูง ใส่ชุดสีดำทั้งตัว แล้วก็…”
เคร้ง!
ยังไม่ทันที่เธอจะได้บอกลักษณะวิญญาณที่ตัวเองเห็นจบ สนก็มีท่าทางตกใจจนเผลอปัดแก้วชานมและจานเค้กสีสันสดใสตกลงสู่พื้นจนมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ใบหน้าของเขาเริ่มซีดเผือดและมีเหงื่อผุดขึ้นหลายเม็ดจนทำให้ฝ้ายอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“เป็นอะไรหรือเปล่าสน สนดูจะไม่ค่อยสบายเลย งั้นเรากลับบ้านกัน…ว้าย!” ยังไม่ทันขาดคำ สนก็ตรงเข้ามากอดฝ้ายแน่นอย่างไม่อายใคร ทำให้หญิงสาวต้องกอดเขาตอบอย่างงุนงงในปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของแฟนหนุ่ม
“สนเปลี่ยนใจแล้ว เราไปเที่ยวกันก่อนกลับบ้านดีกว่านะ”
ฝ้ายพยักหน้ารับด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่อยากถามอะไรอีกฝ่ายมาก เพราะเห็นเขาดูเครียด ๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มสบายใจได้ เธอก็จะทำ
.
.
.
วันต่อมา
ฝ้ายมาโรงเรียนด้วยความงัวเงียจากการที่ได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากเมื่อวานสนพาเธอไปนั่งเรือชมกรุงเทพมหานครจนเกือบค่ำ เมื่อเธอกลับมาก็ลืมไปว่าต้องทำงานกลุ่มที่ยังค้างไม่เสร็จอีก และวันนี้แทนที่จะได้หยุดอยู่บ้านก็ยังต้องมีนัดมาจัดบอร์ดของห้องเรียนกันต่ออีก
“…ฝ้าย”
กึก!
ระหว่างที่กำลังเดินเข้าประตูโรงเรียน ฝ้ายก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคุ้นเคยของสนเรียกเธอจากถนนฝั่งตรงข้าม เธอจึงรีบหยุดเดินก่อนจะหันไปมองตามเสียงที่ได้ยิน แต่ก็ปรากฏเพียงความว่างเปล่า ทำให้ฝ้ายต้องตีหน้าของตัวเองเบา ๆ เพื่อไล่อาการเวียนหัวและความที่มึนของตัวเอง
“คงเพราะเดี๋ยวนี้เราอยู่ใกล้สนบ่อย ๆ ก็เลยคิดถึงจนหูแว่วไปเองล่ะมั้ง” ฝ้ายบอกกับตัวเองก่อนจะสาวเท้าเข้าไปภายในโรงเรียน โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาอันแสนเศร้าหมองของใครคนหนึ่งมองเธอจากข้างหลัง จนกระทั่งแผ่นหลังของหญิงสาวลาลับสายตาไปในระยะไกล