เงา : จมออน

นิยายสั้นแนวเขย่าขวัญและระทึกขวัญ (Thriller)

โดย : จมออน
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

“ตะวัน” ฟื้นจากอุบัติเหตุก่อนจะพบว่า “ลูกจัน” น้องสาวฝาแฝดของเธอเสียชีวิตไปแล้ว หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มมองเธอด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิม และทุกครั้งที่เธอเห็นตัวเองในเงาสะท้อน คนในนั้นกลับไม่ใช่เธอ !!

“เฮือกกกกก ! ”

ตะวัน หญิงสาวในชุดผู้ป่วยสีฟ้าอ่อนผุดลุกขึ้นมานั่งบนเตียงหลังจากที่เธอนอนไม่รู้สึกตัวอยู่ร่วมสัปดาห์ ภาพสุดท้ายที่จำได้คือเธออยู่บนรถยนต์ของน้องสาวขณะกลับบ้านหลังจากไปลองชุดในพิธีหมั้น แล้วอยู่ๆ รถก็เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางอย่างแรง

“คุณคะ ลูกฟื้นแล้ว” เสียงของหญิงวัยกลางคนร้องบอกสามีด้วยความดีใจ ขณะที่กุลีกุจอเดินมาหาลูกสาวที่ข้างเตียง

“แม่คะ … ตะวันหิวน้ำ” เธอบอกแม่ด้วยเสียงแหบแห้งอยู่ในลำคอ พลันใบหน้าของมารดากลับแปรเปลี่ยนไป

“ตะวัน …” หญิงวัยกลางคน​นิ่งไปก่อนจะเดินไปหยิบเหยือกมารินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้เธอ ตะวันยื่นมือไปรับมาดื่มจนหมดแก้วก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ลูกจันเป็นยังไงบ้างคะแม่” ตะวันสังเกตว่ามารดาของเธอนิ่งไปอีกครั้ง ก่อนร่างสูงของผู้เป็นพ่อจะเดินเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขายื่นมือมาบีบไหล่ของเธอแน่นจนต้องหยีตาด้วยความเจ็บ

“เธอจากไปแล้ว จากไปตลอดกาล”

ตะวันนิ่งค้างท่าเดิมอยู่นานเมื่อสิ้นเสียงของผู้เป็นพ่อ มันเป็นความรู้สึกที่เธอเองก็อธิบายไม่ถูกว่ามันคืออะไร ในหัวมันว่างเปล่า ทุกอย่างเงียบจนเธอได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆ ไหลออกมา

“ละ … แล้วตะวันหลับไปกี่วันคะพ่อ” เธอถามต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือบางปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตนเบาๆ เป็นโชคดีของเธอที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก ผิดกับน้องสาวที่ถึงกับเสียชีวิต

“วันนี้วันที่ 7 แล้ว” หญิงสาวเงยหน้ามองนาฬิกาบนผนังก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 1 ทุ่มแล้ว

“ตะวันอยากไปหาลูกจัน … ได้ไหมคะ” เธอไม่ได้คิดไปเอง ทั้งพ่อและแม่ของเธอมีท่าทีที่เปลี่ยนไป ดูแปลกตาไม่เหมือนเคย บรรยากาศในห้องอึมครึมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอพูดถึงน้องสาว

“พ่อว่าหนูพักผ่อนก่อนดีกว่านะ ทำใจให้สบาย” ตะวันพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะเอนตัวนอนลงตามเดิม เธอยังรู้สึกถึงความเจ็บที่หัวของเธอเหมือนวันที่รถชนไม่ผิด

“หนูจำอะไรได้บ้างไหมลูก” เธอหันไปมองมารดาที่ยื่นมือมารับแก้วเปล่า เธอส่งให้ก่อนจะนิ่งคิด

“วันนั้นเรากำลังจะกลับบ้าน ตะวันก็คุยกับลูกจันปกติ แต่ดูเหมือนน้องมีอะไรในใจแต่ไม่ยอมพูดออกมา … ” เธอเว้นหายใจก่อนจะหันไปมองมารดาที่ตั้งใจฟังจนดูผิดปกติ

“แต่ทุกอย่างก็ปกติดีจนอยู่ๆ รถก็เสียการควบคุม … ภาพทุกอย่างมันเร็วมาก เร็วจนสังเกตไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็เห็นว่ารถลงข้างทางแล้ว ข้างหน้าเราเป็นต้นไม้ใหญ่ ตะวันกลัวมาก ตอนนั้นตะวันคิดไว้แล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางรอดแล้วแน่ๆ … แล้วภาพก็ดับไปค่ะ”

หญิงวัยกลางคนพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเดินเอาแก้วไปเก็บโดยไม่ได้พูดอะไร ตะวันสูดจมูกเพื่อกลั้นน้ำตาที่ไม่หยุดไหลซักที แค่สูญเสียลูกสาวคนหนึ่งไปก็หนักพอสำหรับพ่อกับแม่แล้ว เธอไม่ต้องการให้พวกท่านไม่สบายใจมากขึ้นไปอีก เธอควรจะเข้มแข็ง

“เดี๋ยวพ่อจะไปคุยกับหมอซักหน่อย คุณเองก็ไปตามพยาบาลเถอะ เขาจะได้รู้ว่าลูกฟื้นแล้ว” ชายร่างสูงเอ่ยกับลูกสาวก่อนจะหันไปบอกภรรยาของเขา

เมื่อทั้งสองคนออกจากห้องไปตะวันก็ได้คิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โชคดีของเธอที่รอดมาได้ แต่ก็โชคร้ายที่ต้องเสียคนในครอบครัวไป

คิดอะไรเพลินๆ อยู่ได้ซักพักเธอก็รู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว อาจเป็นเพราะว่าเธอนอนติดอยู่บนเตียงนานถึง 7 วัน เธอจึงพยายามที่จะลุกขึ้น แต่มันไม่ง่ายเลยการนอนไม่ขยับตัวเป็นเวลานานส่งผลให้ขาของเธอไม่มีแรง หลังจากลุกขึ้นสำเร็จด้วยความยากลำบากแล้วเธอจึงค่อยๆ เดินไปยังห้องน้ำ

มือบางลากที่แขวนน้ำเกลือมาหยุดที่ข้างตัวตรงหน้าอ่างล้างหน้า ก่อนจะเปิดน้ำจากก๊อกแล้วค่อยๆ วักขึ้นมาลูบหน้าเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองกระจก

“กรี๊ดดดดดดดดดดด”