Site icon เมจิคไทม์ มีเดีย | อ่านนิยายสั้นออนไลน์ฟรี

เขาคนนั้นคือผมอีกคน : Alistonut

โดย : Alistonut
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

นีออน ตัวแพ้แล้วทำตามที่ตกลงกันไว้เลยนะ”

เสียงโนอาน้องสาวเพียงคนเดียวของผมพูดขึ้นหลังที่ผมแพ้พนันบอลเธอครับ ฟังไม่ผิดหรอกครับเราพนันบอลกัน ของพนันไม่ใช่เงินหรืออะไรหรอกนะครับ แต่เป็นการทำตามที่อีกฝ่ายสั่งโดยห้ามขัดขืนเด็ดขาด แล้วผมก็ดันแพ้พนันบอลครั้งนี้ และน้องผมมันก็สั่งให้ผมแต่งตัวเป็นเด็กเนิร์ดๆ เข้าไปเรียนเป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งไอ้ลุคเด็กเนิร์ดเนี่ยมันขัดกับผมโดยสิ้นเชิงเลย เพราะปกติผมนี่เปรี้ยวซาบซ่ามากนะครับขอบอก

และนั้นก็เป็นที่มา ที่ทำให้ผมได้มาอยู่ในลุคพ่อมหาในวันนี้ครับ ในระหว่างที่ผมกำลังเดินเข้าคณะ คนแถวนั้นก็เอาแต่มองผมกันใหญ่เหมือนเห็นผมเป็นของแปลกยังไงยังงั้น ก็แน่อ่ะครับคณะที่ผมเรียนคือคณะนิเทศซึ่งคนที่มาเรียนที่นี้ส่วนมากก็มีแต่พวกหน้าตาดี หรือไม่ก็คนที่มีสไตล์เป็นของตัวเองแต่งตัวเก๋ๆ ไม่มีหรอกครับที่แต่งตัวด้วยเสื้อและกางเกงนักศึกษาขนาดใหญ่กว่าตัวถึง 5 ไซส์ แล้วยังใส่แว่นหนาเตอะแบบนี้

“นีออน ใช่นีออนจริงๆ มั้ยเนี่ย มึงทำอะไรเนี่ยทำไมแต่งตัวยังงี้” เสียงมาร์เพื่อนสนิทที่ได้มาเรียนคณะเดียวกันของผมเองครับ มันเป็นผู้ชายตัวเล็กแต่สูงกว่าผมหน่อย หน้าตาน่ารักครับแต่ไม่สู้ผมหรอก ฮ่าๆๆ มันคงตกใจมากเพราะปกติผมแต่งตัวด้วยชุดที่พอดีตัวและเป็นพวกแต่งตัวจัดๆ อีกคนหนึ่งเลย และเวลาปกติถ้าออกไปไหนก็ใส่เป็นคอนแทคเลนส์แทนครับ

“คือกูแพ้พนันน้องอ่ะ เลยต้องทำตามที่มันสั่ง 1 เดือน มึงยังต้องเห็นกูลุคนี้อีกนานนะมาร์ทำใจให้ชินซะ”

“เล่นอะไรของมึงสองพี่น้องเนี่ย” มันทำหน้าระอาใส่ผม แล้วเราก็พากันเดินเข้าห้องเรียนไปกันครับ ตอนที่เดินเข้ามาทุกคนสายตาก็มองมาที่ผมครับ แต่ไม่ได้มองด้วยสายตาชื่นชมอะไรหรอกครับ ยังคงเป็นเหมือนกับตอนที่ผมเดินเข้าคณะมานั้นแหละครับ มหา’ลัยที่ผมอยู่ไม่มีการรับน้องเพราะเป็นมหา’ลัยเอกชน ทำให้ไม่เคยมีใครเคยเจอกันมาก่อนครับ นอกจากพวกที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน หรือเป็นเพื่อนกันมาก่อน

ผมไล่สายตาไปทั่วเพื่อหาที่นั่งครับแต่แล้วก็เห็นเก้าอี้ว่าง 2 ตัว ข้างๆ คนที่หล่อสะดุดตา ใบหน้าเขาหล่อคมเข้มอย่างไม่เหมือนใคร นั่งก้มหน้าก้มตาไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แม้แต่เพื่อนในกลุ่มเขาที่นั่งข้างๆ เขาอยู่ ผมจึงดึงมือมาร์ไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ข้างเขาครับ

“โทษนะ มีคนนั่นตรงนี้มั้ย” ผมถามเขาครับแต่เขาไม่ตอบผม

“เฮ้! นายฉันถามนายอยู่นะ มีคนนั่งตรงนี้มั้ย?” ผมถามเขาอีกครั้ง เขาคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ส่ายหน้าแล้วจากนั้นก็หันกลับไปเล่นเกมในโทรศัพท์ต่อ

หน๊อย! ไอ้หมอนี้มันเป็นใครกันหน้าตาก็หล่ออยู่หรอก แต่กล้าไม่สนใจนายนีออนคนนี้ได้ยังไงกัน แม้ผมจะอยู่ในลุคพ่อมหาก็เถอะ

แล้วอาจารย์ก็เข้ามาสอน พวกเราก็นั่งเรียนไป คาบแรกก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับเป็นแนะนำรายวิชา เกณฑ์การให้คะแนนซะมากกว่า
.
.
.

“มึงรู้ปะ ว่ากูนั่งข้างใครอ่ะ ผู้ชายที่หล่อๆ แต่นิ่งคนนั้นอ่ะ” ผมถามมาร์ไป ในตอนที่เรากำลังเดินออกจากคณะหลังเลิกเรียน

“ก็เหนือไงมึง เหนือคนคูล นิ่ง และแสนเย็นชา ถ้าคณะเรามีให้ประกวดเดือน ก็เหนือนี่แหละที่จะได้เป็นกูพูดเลย”

“นีออน คืนนี้เราไปร้านสะมอลูกันเหอะ กูคิดถึงแสงสีมาก อีกอย่างพรุ่งนี้มีเรียนบ่ายด้วย” มาร์ชวนผมไปร้านเหล้ากึ่งผับหลังมอครับ

“เอาดิแต่กูยืมชุดมึงนะ น้องกูมันไม่ให้กูเอาชุดดีๆ มาเลยสักตัว ตู้กูมีแต่ชุดพ่อมหา กูไม่ยอมใส่ชุดนั้นไปร้านเหล้าแน่ๆ”

“ได้เสมอเพื่อนรัก” ผมกับมาร์เราไซส์ใกล้เคียงกันครับยืมเสื้อผ้ากันใส่บ่อย และเราสองคนสมัยมัธยมก็มีเที่ยวบ้างครับก็เราเป็นหนุ่มสังคมพอตัวเลยนี่นา แต่เราก็ดูแลตัวเองกันได้นะครับไม่ต้องห่วง

22.30 น.

ร้านสะมอลู

และตอนนี้เราก็มาอยู่กันที่ร้านแล้วครับ ผมแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตโอเวอร์ไซส์สีขาวตัวบางปลดกระดุม 3 เม็ด และกางเกงขาสั้นจนกลัวจะมีอะไรโผล่ออกไป ก็ในตู้มาร์มันมีแต่แบบนี้อ่ะฮ่าๆ เราเดินเข้ามาที่โต๊ะที่เราจองไว้ครับ วันนี้คนเยอะมากสงสัยมาฉลองเปิดเทอมวันแรกด้วยมั้ง ตั้งแต่เราเข้าร้านมาก็มีแต่สายตาจับจ้องมาที่เราทั้งสองคนครับ ก็พอรู้ตัวนะครับว่าเขามอง แต่เราต้องแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นไว้ครับผมจะสอนไว้

“อ้าวมาร์หวัดดี วันนี้มาด้วยเหรอทำไมไม่ไปนั่งด้วยกันอ่ะ แล้วนี่มาร์มากับใครอ่ะ” ผมจำหน้าคนที่ถามมาร์มันได้ครับว่าเป็นเพื่อนในคณะเราชื่อเต้ แต่ไม่รู้ว่ามาร์กับเต้ไปทำความรู้จักกันตอนไหน แถมดูท่าว่าเต้มันจะจำผมไม่ได้ด้วย เหอะ! ถ้ารู้ว่าผมคือไอ้มหาที่พวกเขาเรียกกันคงช็อคกันไปเลย แล้วเต้ก็ชวนเราไปนั่งด้วยกันกับกลุ่มเพื่อนเขาครับ

ผมเห็นเหนือนั่งรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เขาก็ดื่มของเขาไปเงียบๆ ของเขาเหมือนเดิมอ่ะครับ เราสบตากันครู่หนึ่งเพื่อนอีกคนก็ชวนผมคุย พวกเขาให้ความสนใจผมกันมากๆ เลยถามนู่นถามนี่เยอะแยะไปหมด อันไหนบอกได้ผมก็บอกอันไหนบอกไม่ได้ผมก็แถไปเรื่อยอ่ะครับ  ไม่งั้นความแตกกันพอดี ผมบอกพวกเขาไปว่าชื่อออนครับ ไม่ได้โกหกแต่ก็ไม่ได้บอกหมดนิครับจริงมั้ย

พอเมาได้ที่ผมกับมาร์ก็ออกไปวาดลวดลายกันเต็มที่เลยครับ มีเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คนมาร่วมแจมด้วย สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาขอเต้นกับผม ผมก็ไม่ขัดอ่ะครับแค่เต้นเอง แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีมือใครก็ไม่รู้ครับกระชากลากถูผมออกจากฟลอร์เต้นไป พอมองก็เป็นพ่อหนุ่มคนคูลของทุกคนนั่นแหละครับ แล้วเขาจะลากผมออกมาทำไมเนี่ย

“นายลากเราออกมาทำไม”

“ขอหน้าชัดๆ ข้างในมืด” เขาบอกออกมาด้วยประโยคสั้นๆ ห้วนๆ ต้องไปคิดในหัวต่อเอาครับว่าหมายถึงอะไร เขาคงจะสื่อว่า ‘ขอดูหน้าชัดๆหน่อย พอดีข้างในมันมืดเขามองไม่เห็น’ อะไรประมาณนี้มั้งครับ เฮ้อนี่แค่คุยไม่กี่ประโยคนะครับ นีออนปวดหัว

“มาขอดูหน้าคนอื่นแบบนี้ได้ยังไงอ่ะ ถามก่อน”

“คุ้น” เขาคงหมายถึงเขาคุ้นหน้าผมน่ะครับ เฮ้ย!ไม่ได้นะใครๆ ก็ดูไม่ออกว่าผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นปีของพวกเขา แต่ทำไมนายเหนือคนนี้ถึงเริ่มคุ้นไปได้ล่ะ ไม่ได้การต้องรีบหนี” คิดดังนั้นผมจึงรีบใส่เกียร์หมาวิ่งเข้าไปกลางฟลอร์แล้วลากมาร์ออกมาเลยครับ อยู่นานกว่านี้ก็กลัวความแตกอ่ะครับ

09.00 น.

มหาลัย

โชคดีหน่อยครับที่ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้เจอเหนืออีก เพราะเราลงเรียนกันคนละวิชาด้วยแหละครับ ปี1 ส่วนใหญ่จะเป็นวิชาเลือกทำให้เพื่อนในคณะเรียนไม่ค่อยเหมือนกันด้วยครับ ถือเป็นเรื่องดีๆ อีกหนึ่งเรื่องครับ

“นีออนคืนนี้เต้ชวนกูไปงานวันเกิดโจ้อ่ะ มึงจะไปด้วยกันมั้ย ไปก็ดีนะมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยเหอะ กูไม่รู้จักใครในงานเท่าไหร่ด้วย นะๆๆ เดี๋ยวกูใหยืมชุด นะ     ”  

ตอนนี้มาร์มันคบกับเต้อยู่ครับ เรียกได้ว่ากำลังหวานหมดขึ้นเลยแหละ จนเพื่อนๆ ในคณะแซวว่าเป็นคู่รักประจำคณะกันเลย แล้ววันนี้มันก็มาชวนผมไปงานวันเกิดเพื่อนของเต้มันครับ และผมคงต้องไปเป็นเพื่อนมัน สงสารมันครับ ไอ้มาร์มันเป็นคนหนึ่งที่ถ้ามันไม่สนิทก็ไม่ค่อยพูดครับ

“เออๆๆ แล้วอย่าหวานกับเต้จนลืมกูล่ะ”
.
.
.

21.30 น.

ร้านสะมอลู

ร้านดังร้านนี้ร้านเดิมครับ ตอนนี้เราก็เข้ามาอยู่ในงานวันเกิดของโจ้เพื่อนเต้แล้ว ผมก็มีของขวัญให้เขาด้วยครับ จะได้ดูไม่น่าเกลียด เมื่อโจ้เห็นผมเขาก็ยิ้มอย่างแฝงความหมายมาให้ครับ สงสัยจะตกหลุมที่ผมขุดไว้รอบตัวซะแล้วล่ะ ฮ่าๆ โจ้ก็ดีครับ หล่อใช้ได้เลย แล้วมาร์มันก็สะกิดผมอย่างรู้ทันครับ แต่ก็เท่านั้นแหละครับ ผมรู้ว่าโจ้เขาก็ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก คงจะเห็นของสวยๆ งามๆ แล้วรู้สึกอยากได้ก็เท่านั้น ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเลยไม่ซีเรียสอะไร

“ออนดื่มนี่อีกดิเร็วๆ ชนแก้วกันๆ” โจ้ครับ เขาขอชนแก้วกับผมอีกแล้วครับ เราก็ชนกันบ่อยแล้วนะ นี่เขากะจะมอมผมรึเปล่าเนี่ย ถ้าคิดยังงั้นก็เสียใจด้วยนะ เพราะผมน่ะคอแข็งมากๆ ตอนเด็กพ่อจับกรอกปากเกือบทุกวัน เพราะกลัวลูกโดนมอมเนี่ยแหละครับ

“เราไม่ไหวแล้วอ่ะ 555 เดี๋ยวมานะไปเข้าห้องน้ำแปปหนึ่ง” แล้วผมก็ลุกออกมาเลยครับ ปล่อยมาร์มันคุยกับเพื่อนๆ ไป ไอ้นี้มันเอาตัวรอดได้ครับ
.
.
.

“ไง…วันนี้แปลงร่างหรือไง” เหนือมันโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ครับ ผมเพิ่งรู้ก็ตอนนี้ว่าเหนือเขามาร่วมงานวันนี้ด้วย วันนี้เขาหล่อมากครับเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงยีนส์ขาดเข่า โอ๊ยยลุคนี้ดาเมจรุนแรงมาก ใจผมจะไม่ไหวเอานา แต่พักเรื่องความหล่อของเขาก่อนครับ เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะครับอะไร แปลงร่างๆ นะ

“จะบ้าหรือไง ใครมันจะไปแปลงร่างได้ บ้าหรือเปล่า”

“ก็แปลงร่างจากพ่อมหา มาเป็นหนุ่มน้อยสุดฮอตในคืนนี้ไง” นี่เป็นประโยคที่ยาวที่สุด ที่ผมเคยได้ยินเขาพูดมาเลยครับ

“นาย…นายรู้ได้ยังไง ทั้งคณะไม่มีใครดูออกเลยนะ” เขาดูออกได้ยังไงกันนะ เจอหน้ากันนับครั้งได้

“ฉันต้องบอกนายด้วยเหรอ” เขานี่มันคือนายหน้านิ่งที่กวนที่สุดเลยที่ผมเคยเจอมาเลยครับ ไหนใครบอกว่าเขาแสนเย็นชาไงแล้วนี้อะไรครับ พ่อหนุ่มเย็นชาคนนั้นมันไปไหนแล้ว เอาเหนือคนคูลแสนเย็นชามาคืนผมเดี๋ยวนี้นะ!!

“นายอย่าบอกใครเรื่องนี้ได้มั้ย นะๆๆ ฉันขอล่ะนะๆๆ ให้ทำอะไรก็ยอมเลย ถ้าคนอื่นรู้ฉันแย่แน่ๆ” แย่สิครับถ้าคนอื่นรู้จนรู้ไปถึงน้องสาวผม ผมซวยแน่ๆ ยัยโนอามันยิ่งทำตัวไม่เหมือนน้องสาวผมอยู่ด้วยครับ

“ทุกอย่างเลยเหรอ?”

“ทุกอย่างสิ อยากได้อะไรบอกมาได้เลย”

“งั้น…ไปบอกทุกคนว่า เราเป็นแฟนกันตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” หะ! อะไรนะครับบอกทำไมอ่ะ บอกเพื่อ? แต่จังหวะนี้อะไรก็ต้องยอมแล้วล่ะครับ ยังไงค่อยว่ากันอีกที

“ก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าแค่ไปบอกเพื่อน ไม่ได้ไปเป็นแฟนกันจริงๆ แล้วตอนอยู่มอน่ะ ห้ามเข้าใกล้ฉันเด็ดขาด ไม่งั้นถ้าความแตกมาข้อตกลงนี้เจ๊ากัน”

“โอเค”
.
.
.

“เอ่า ออนทำไมมากับเหนือมันได้อ่ะ แล้วไปห้องน้ำอะไรนานจัง โจ้รอตั้งนานแหนะ”

“เอ่อ…คือ ทุกคนคือเรา…เรากับเหนือเป็นแฟนกันแล้วนะ วันนี้เรากลับก่อน มาร์มึงกลับกับเต้นะ กูไปก่อน” แล้วผมก็รีบชิ่งออกมาเลยครับ ไม่อยากตอบคำถามใคร

จากนั้นผมก็ขึ้นรถไปกับเหนือ แล้วบอกให้เหนือไปส่งที่คอนโดครับ เพราะตอนมาผมกับมาร์เรานั่งเท็กซี่มาครับ

“นีออน นายคงสงสัย ว่าฉันให้นายพูดแบบนั้นไปทำไม” เหนือพูดขึ้นในระหว่างที่ขับรถอยู่ครับ และก็จริงครับผมสงสัยมากๆ

“ฉันไม่อยากให้ใคร มาตัดหน้าคนที่ฉันกำลังจะจีบ”

“หะ? พูดจริง พูดเล่นเนี่ย”

“นายอาจไม่เชื่อถ้าฉันพูดคำนี้ออกไป แต่นายทำให้ฉันรู้สึกสนใจในตัวนายขึ้นมา มันเลยทำให้ฉันคิดว่า ฉันเจอคนที่อยากคุยด้วยแล้ว” อะไรของเขากันครับ เจอคนที่อยากคุยด้วย คนอย่างนี้ก็มีด้วยเหรอครับผมเพิ่งเคยเจอจริงๆ

“นายจะว่ายังไง ถ้าฉันจะขอลองคุยกับนาย”

“เอ่อ..มันค่อนข้างที่จะกะทันหันนะ แต่จะว่ายังไงดีฉันไม่มีปัญหา เรามาลองคุยกันก็ได้ ฉันไม่เคยปิดกั้นตัวเองอยู่แล้ว” ผมบอกไปตามที่คิดครับ

2 เดือนต่อมา….

ตอนนี้ก็ผ่าน 2 เดือนแล้วครับ ผมกลับมาอยู่ในสภาพนีออนคนเดิมเพิ่มเติมคือ สลัดคราบพ่อมหาออกไปแล้ว เพื่อนๆ พี่ๆ ในคณะต่างก็ตกใจกับลุคที่เปลี่ยนไปของผม จนทำให้ผมดังไปทั่วทั้งมหาลัยไปช่วงหนึ่งเลยครับ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากหรอกครับ นอกจากมีเพื่อนเยอะขึ้น และอีกอย่างหนึ่งก็คือ คนคอยรบคอยส่ง พาไปกินข้าว ดูหนัง เข้าร้านเหล้า จนคนอื่นเขาคิดว่าผมกับเหนือเป็นแฟนกันหมดเเล้ว แต่ก็จริงครับตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว

เขาขอผมเป็นแฟนเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน หลังจากที่เราทำความรู้จัก ศึกษากันมากขึ้น และเราทั้งสองก็เข้ากันได้ดีในหลายๆ เรื่องครับ ถึงตอนแรกที่เรารู้จักกันเขาจะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ดูเย็นชา แต่พอได้ทำความรู้จักกันจริงๆ เขาก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียวครับ เขาเองก็มีมุมน่ารัก มุมอ่อนโยนเหมือนมนุษย์ทั่วไปครับ

แต่ที่ทำให้ผมยอมรับและตกลงเป็นแฟนกับเขา คือเขาดูแลเอาใจใส่ผมมากๆเ ลยครับ เกิดมาผมไม่เคยได้รับการดูแลขนาดนี้มาก่อนเลยครับ และนั่นแหละครับทำให้เราตกลงเป็นแฟนกันได้ แต่ก็มีอยู่สิ่งหนึ่งครับที่เขาเป็นหนักมากๆ ก็คือเรื่องหึงห่วงนี่แหละ ผมจึงบอกให้เขาเบาๆ ลงหน่อย เรื่องนี้ผมไม่ไปไหนหรอก จะอยู่กับเขาให้เขามีเพื่อนพูดไปนานๆ

“นีออน ตัวจะใส่ชุดนี้ไปร้านเหล้ากับเค้าจริงๆ เหรอ…”

“ก็เค้ากลัวตัวเองจะหึงอีกนี่นา เห็นโนอามันเอามาให้วันก่อนเลยเอามาใส่ดู”

และตอนนี้ ผมก็อยู่ในชุดกระต่ายตัวน้อยที่มีหูและหางสีขาวๆ น่าขยำ

“วันนี้ไม่ไปแล้วร้านลงร้านเหล้า เหนือจะเอาเมีย!!!” หมดกันครับพี่เหนือคนคูลของผม…

Exit mobile version