เกาะน้อย…ที่รอคอยฝัน : กอหญ้า

นิยายสั้นรักโรแมนติค (Romantic)

มีอยู่วันหนึ่งฉันต้องไปทำธุระเรื่องงานกับน้าดาว น้ามิกซ์ที่เกาะสมุยกันสามคน เพราะน้าเดชต้องกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อของเขาที่ป่วย อยู่อีกอำเภอนึงที่บนฝั่ง ทำให้ฉันทำตัวเกือบไม่ถูก ต้องทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด เพราะกลัวว่าใครจะจับพิรุธติด ใครที่ว่านี้ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าตัวและน้าดาวนั่นเอง เราไปทำธุระกันสามวันสองคืนจำเป็นต้องพักที่บังกะโลหลังเดียวกันแต่ในบังกะโลนี้มีห้องนอนสองห้อง และแน่นอนฉันนอนห้องเดียวกับน้าดาว ส่วนอีกห้องเป็นของน้ามิกซ์ ในระหว่างที่ต้องอยู่ในบังกะโลหลังนี้ ฉันเองรู้สึกเขินไม่เบา นี่เขาจะไม่หวั่นไหวไปกับความสวยความน่ารักของฉันบ้างเลยหรือ ฉันไม่ได้พูดเอาตามความเข้าข้างหรือขี้โม้ของตัวเองหรอกนะ หลายคนต่างลงความเห็นกันอย่างนั้นจริงๆ

“เฮ่อนาเอ๊ย จะรอดมั้ยเนี่ยะ” นี่คือการพูดกับตัวเองของฉันเป็นครั้งที่ร้อยรอบได้แล้วล่ะมั้ง

ตลอดระยะเวลาสามวันสองคืนที่อยู่ที่นี่ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ทั้งตื่นเต้นและอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันเจอรุ่นพี่คนนึงที่เคยตามจีบฉันตอนอยู่มหาลัย รุ่นพี่คนนี้เขามาทำงานเป็นรองผู้จักการอยู่ที่นี่ ทันทีที่เจอฉันเขายังคงแสดงท่าทีดีใจและก้อร่อก้อติกฉันเหมือนเดิม ดีเหมือนกันฉันจะได้อวดน้ามิกซ์เสียเลยว่าตอนอยู่มหาลัยฉันฮอตขาดไหน และการที่ฉันมาเจอคนรู้จักที่นี่แถมยังให้ความสนใจฉันเสียด้วยอย่างนี้ มันเลยทำให้การติดต่อดิวงานง่ายและสะดวกขึ้นมาก ทำให้ฉันได้รับเครดิตในครั้งนี้ไม่น้อย

“มีหลานสาวสวยมันก็ดีอย่างนี้นี่เองนะคะคุณมิกซ์”

น้าดาวพูดชมฉันกับน้ามิกซ์ขณะที่นั่งเรือกลับเกาะพะงัน ในขณะที่น้ามิกซ์หันมามองหน้าฉันนิดนึงแล้วก็พูดว่า “ครับ” แค่คำเดียว บอกตรงๆฉันดูผู้ชายคนนี้ไม่ออกจริงๆ บางครั้งฉันก็รู้สึกเหนื่อยกับควารู้สึกแบบนี้อย่างเหลือเกิน ไม่รู้ว่ามันจะจบลงแบบไหน

.
.
.

และแล้ววันแห่งความเสียใจก็มาถึง เมื่อครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับพาแฟนกลับมาด้วย หัวใจของฉันหล่นวูบ ฉันแกล้งฝืนยิ้มก็ยิ้มไม่ออกฉันกลับไปร้องไห้ที่ห้อง อกหักมันเจ็บอย่างนี้เองน่ะหรือ ฉันเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของใครอีกหลายคนที่มาชอบมาสนใจฉันแล้วต้องผิดหวังมันเป็นยังไง ถ้าฉันเคยทำคนอกหักอย่างน้อยสัก 10 กว่าคนได้เท่าที่ฉันรู้ตัว แต่เขาได้แก้แค้นแทนผู้ชายเหล่านั้นได้อย่างสาสมทีเดียว

หัวใจของฉันมีน้ามิกซ์อยู่เต็มพื้นที่ แต่ทุกพื้นที่ของหัวใจกลับเต็มไปด้วยความช้ำเลือดช้ำหนอง ถ้าเพียงแต่เขาจะไม่ทำเป็นเหมือนฉันไม่มีตัวตนแบบนี้ ฉันเองคงไม่ต้องออกแรงขุดหลุมเพื่อให้ตัวเองตกมาอย่างสาหัสแบบนี้เช่นกัน

ฉันตัดสินใจกลับบ้านบอกกับน้าดาว น้าเดชว่า บริษัทที่เพื่อนฉันทำงานอยู่ก่อนแล้วและฉันเองก็อยากทำงานที่นั่นมาก ตอนนี้เพื่อนโทรมาบอกว่ามีตำแหน่งว่างพอดี ฉันเลยไม่อยากที่จะเสียโอกาสนั้นไป และแน่นอนฉันโกหกมันขึ้นมา น้าดาวเองไม่อยากให้ฉันกลับ แต่ทำไงได้ก็มันเป็นชีวิตเป็นความต้องการของฉันนี่นา

น้าดาว “น้าก็คิดว่านาจะมาอยู่กับน้าเลย นี่ต่อให้น้าให้เงินเดือนเพิ่มอีกครึ่งก็รั้งเราไม่อยู่แล้วใช่มั้ย”

น้าเดช “งั้นน้าให้เป็นสองเท่าเลยเอ้า”

เอ๊ะ มันเริ่มทำให้ฉันเริ่มเขวหน่อยๆ กับข้อเสนอเสียแล้วเหมือนกันสิ เอาไงดี แต่น้าดาวกับน้าเดชจะมองว่าฉันแกล้งกุเรื่องเพื่อเห็นแก่เงิน หรือพูดง่ายๆว่าฉันหัวหมอหรือเปล่านะ ไม่หรอกฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะฉันได้ตัดสินใจไปแล้ว ฉันจึงได้แต่ยิ้มและเข้าไปกอดน้าดาว

วันเดินทางกลับน้ามิกซ์เป็นคนมาส่งฉันที่ท่าเรือเพราะน้าเดชติดธุระสำคัญ จะว่าดีใจมั้ย ไม่หรอก มันพ้นจุดที่จะดีใจหรือไม่ที่ได้อยู่ใกล้สองต่อสองกับคนที่ตัวเองแอบชอบ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงแอบเป็นปลื้มนิดๆ

น้ามิกซ์ ถามฉันว่า “ไม่ชอบทำงานที่นี่เหรอ นึกว่าชอบเสียอีก”

จะให้ฉันตอบอย่างไรดีล่ะ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนคำถามมันตอบยากยิ่งกว่าสอบสัมภาษณ์เสียอีก

ฉันเพียงแต่ยิ้มและตอบสั้นๆว่า “ชอบค่ะ ที่นี่สวยมาก”

และฉันก็มองออกไปทางหน้าต่างของรถที่กำลังแล่นอย่างไม่เร็วไม่ช้า ฉันไม่สนใจว่าเขาจะสนใจในคำตอบของฉันหรือไม่ เพราะฉันเองก็เดาว่าเขาเองก็คงชวนคุยไปอย่างนั้นเอง คงไม่ถามเพื่อต้องการเอาคำตอบอย่างจริงจังอะไร

น้ามิกซ์ถามต่อว่า

”ถ้าชอบแล้วทำไมรีบกลับ”