“คึ คือไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ”
“แล้วอย่างไหนล่ะคะ”
“คือตอนนี้ผมโสด หากบิวโสดเหมือนกัน ผมขอคบได้ไหม คือมันดูเหมือนง่ายไป… แต่ผมอยากให้เวลาเป็นบทพิสูจน์”
“…เรื่องนี้ขอถามเจ้าตัวดูก่อน”
“ผมรอฟังคำตอบนะครับ” นางพยักหน้าดีนจึงเดินหันหลังกลับออกไป
“อาหารเช้าอยู่ที่ห้องพักรับรองนะคะ…” เจ้าของรีสอร์ทเอ่ยบอกตามหลัง ดีนหันกลับมาตอบด้วยสีหน้าหมองแววตาไร้ความสดใสเหมือนเคย
“ครับ…”
เมื่อหนุ่มหน้าขาวยิ่งกว่าผู้หญิงเดินออกไปไกล สองพี่น้องที่แอบอยู่อีกมุมก็เดินออกมา
“โอ้ยแม่ แม่จะเอาผู้ชายหน้าวอกมาเป็นเขยหรือแม่” บีเอ่ยเย้ามารดาจิกตาค้อนให้พร้อมมองพี่สาวที่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา
“ดูว่าเขา… คนเราหากมีความกล้า ก็ถือว่าใจเขาใช้ได้ แม้เราจะไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า แต่เดี๋ยวนี้ยุคนี้ โลกโซเชียลมันกว้าง แปบเดียวก็รู้หมดล่ะว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฐานะการงานเป็นยังไง”
“แหม้แม่… แม่ก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“พวกแกนั้นแหละที่สอน”
เหลือเวลาอีกสองวัน ดีนพยายามหาโอกาสเจอหน้าบิวแต่เหมือนเธอจะปิดกั้นตัวเอง ไม่ยอมให้เขาได้เจอหน้าหลังจากกินอาหารเที่ยงดีนก็ออกมาเดินด่อมๆมองๆ
“มองหาอะไรคะ” เสียงแหลมโพลงถาม ดีนสะดุ้งแล้วรีบหันกลับมามองต้นเสียง ก่อนจะผ่อนลมหายใจอย่างโล่งใจ
“อ้อ บีเองเหรอ”
“ค่ะบีเอง ว่าไงมองหาอะไรอยู่คะ”
“พี่มองหาพี่บิว” ขอบอกไปตามตรง ไม่จำเป็นต้องรักษาฟอร์ม ด้านได้อายอด!
“พี่บิวอยู่ที่แปลงผัก หากคุณอยากเจอก็เดินลัดสนามแล้วข้ามสะพานนั้นไปก็เจอแล้วค่ะ” ดีนมองตามนิ้วชี้ของบีและจดจำรายละเอียดคำบอกกล่าวเธอขึ้นใจ
“ขอบคุณครับ เอ่อ ว่าแต่ว่าพี่บิวไม่มีแฟนใช่ไหมครับ”
“ถ้ามี คุณจะอยู่ที่นี่ได้ถึงตอนนี้หรือเปล่าล่ะ” ดีนฉีกยิ้มแล้วรีบเดินไปตามทางที่เด็กสาวบอก
บิวกำลังรดน้ำผักอย่างขะมักเขม้น ดีนรีบเดินลัดเลาะเพื่อให้ถึงตัว โดยคิดว่าจะต้องทำยังไง ไม่ให้เธอวิ่งหนีเขาไปซะก่อนก่อนที่เขาจะถึงตัว
ระหว่างที่เขารีบเดินและเกือบใกล้ถึงตัวบิว
“ว้าย!” บิวร้องเสียงหลง ทว่าดีนกับรับร่างที่ลื่นไถลเพราะดินที่เปียกน้ำไว้ได้พอดี
“ระวังหน่อยซิ” เขาบอกเบาๆพร้อมด้วยสายตาตำหนิกลายๆ บิวเมื่อหายตกใจก็รีบสะบัดตัวเองออกจากอ้อมแขนของคนหน้าวอก หากแต่อีกฝ่ายกับรัดแน่นขึ้น
“ปล่อยซิ” น้ำเสียงหงุดหงิดเอ่ยบอก
“สัญญาก่อนว่าจะไม่หนี และจะคุยกับผมดีๆ”
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุย”
“งั้นผมจะกอดคุณไว้อย่างนี้”
“จะบ้าเหรอ เดี๋ยวใครมาเห็น”
“งั้นก็สัญญาซิว่าจะคุยกับผมดีๆ”
“ก็ได้”
“ผมขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ” “ผมไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคือความผิดพลาด แต่ผมอยากให้มันเป็นโอกาสให้คนสองคนได้ศึกษาดูใจกัน ผมพร้อมให้คุณเข้ามาอยู่ในชีวิตของผมในแต่ละวันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะว่าไง”
“ฉันจะเชื่อได้ยังไง…ว่าวันสองวันนี้คุณจะไม่หนีหายไปจากตรงนี้”
“ผมพร้อมจะทำสิ่งที่ดีที่สุด แค่คุณบอกมา”
“หากคุณมั่นใจว่าคุณชอบในสิ่งที่เราเป็นและพร้อมที่จะปรับจูนเข้าหากันฉันก็พร้อม”
“งั้นพรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนกัน”
“มันไวไปค่ะ” แก้มนวลแดงเรื่อด้วยความเขินอาย ….ใครจะคิดว่า คนขี้งกหน้าวอกจะเป็นคนจริงขนาดนี้
ดีนยิ้มปริ่มด้วยความดีใจ แค่นี้เขาก็สุขพอที่จะกลับไปดำเนินชีวิตเพื่อสร้างอนาคตใหม่กับผู้หญิงที่พร้อมจะเดินเคียงคู่กันไปกับเขา
หากคนที่ไม่ใช่ ถึงรั้งและดับดิ้นให้ตายตรงหน้าเขาก็ไม่สนไม่แคร์ แต่หากคนที่ใช่ เราไม่ต้องวิ่งตามหาให้เหนื่อย สุดท้ายบุบเพสันนิวาสก็จะพาให้เนื้อคู่มาเจอกัน แล้วแต่ว่าจะมาในรูปแบบใด