“ต่อไปจะเป็นงานกลุ่มชิ้นแรกของวิชานี้นะ นักศึกษาจับกลุ่มโดยต้องคละสาขานะ”
เสียงอาจารย์สั่งงานดังขึ้น ต่อมาทุกคนก็วุ่นอยู่การแบ่งกลุ่มเพื่อทำงานที่อาจารย์มอบหมาย
“เอ่อ ขอโทษนะครับ ได้สมาชิกครบหรือยังครับ” ฉันหันไปดูตามเสียง ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้นถามฉัน
“ยังค่ะ ยังขาดคนอยู่เลยค่ะ” ฉันตอบไปโดยไม่ทันได้ถามเพื่อนในกลุ่มด้วยซ้ำ
หลังจากคุยเรื่องงานที่อาจารย์ให้เรียบร้อยก็ได้รู้ว่าเค้าคนนั้นชื่อ ต้นโมกข์ ซึ่งต้นโมกข์มาจากจังหวัดเดียวกับฉันเลย ฉันก็ได้พูดคุยและทำความรู้จัก แล้วตอนนั้นเองต้นโมกข์ก็ได้กลายเป็นเพื่อนต่างสาขาคนแรกของฉัน ต้องบอกก่อนว่าต้นโมกข์ ค่อนข้างเป็นผู้ชายที่เงียบๆไม่ค่อยพูด และไม่ค่อยกล้าแสดงออก เพราะฉะนั้นการที่ฉันจะชวน
ต้นโมกข์คุยด้วยสักครั้งก็เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกัน จะเรียกว่าถ้าไม่มีเรื่องงานก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันกลับชอบเค้ามากขึ้นทุกวัน ความเงียบของเค้ากลับกลายเป็นเสน่ห์ในตัวเองโดยธรรมชาติ หลังจากจบวิชานั้นไป ฉันกับต้นโมกข์ก็แทบไม่ได้เจอกันเลย เพราะสาขาฉันกับสาขาต้นโมกข์อยู่ห่างกันมาก แต่ถึงจะไม่ค่อยได้เจอแต่ความรู้สึกที่ฉันมีให้ต้นโมกข์กลับไม่ได้ลดน้อยลง กลับมากขึ้นด้วยซ้ำ บางวันที่ฉันบังเอิญเจอกับต้นโมกข์แค่ไม่นานแต่วันทั้งวันนั้นทำให้ฉันมีความสุข ฉันได้เก็บความรู้สึกที่ฉันมีไว้ จนกระทั่งฉันขึ้นปี 2
“หวัดดีอ้อแอ้” เสียงที่ฉันคุ้นเคยดังขึ้น
“ว่าไงต้นโมกข์ ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ เป็นไงบ้างปี 2 แล้วเรียนหนักขึ้นหรือป่าว” ฉันตอบกลับไปด้วยหน้าตายิ้มแย้มขณะยืนซื้อข้าวที่โรงอาหาร
“หนักใช้ได้เลย อ้อแอ้หละเป็นไงบ้างไม่ค่อยได้เจออ้วนขึ้นป่าวเนี่ย” เค้าพูดพลางหัวเราะหยอกล้อ มันแปลกมากที่ถ้าเป็นคนอื่นทักฉันแบบนี้ฉันคงโกรธ แต่พอเป็นต้นโมกข์ นอกจากจะไม่โกรธแล้ว ฉันยังเขินแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“หนักอยู่แต่หนักน้อยกว่าเราหน่อยนะ” ฉันตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น
บทสนาสั้นๆแค่นี้กลับทำให้ฉันมีความสุขได้
วันนั้นเองเมื่อฉันเรียนเสร็จกลับมาถึงหอหันไปมองปฏิทิน ก็พบว่าอีก 5 วันจะถึงวันเกิดต้นโมกข์ ฉันนั่งครุ่นคิดว่าจะทำของขวัญอะไรให้ต้นโมกข์ดีเลยหันไปปรึกษานิ่มเพื่อนสนิทที่สุดและเป็นรูทเมทของฉันด้วย
“นิ่มอีก 5 วันเป็นวันเกิดต้นโมกข์แกว่าฉันทำอะไรเป็นของขวัญให้ต้นโมกข์ดี”
“วาดรูปสิ แกวาดรูปเก่งจะตายต้นโมกข์ต้องชอบแน่ๆ”