วิหค หลงทาง : ตัวเล็กผู้น่ารัก

นิยายสั้นแนวชีวิต ดราม่า (Drama)

กลับมาในปัจจุบัน ดาราที่พึ่งส่งแขกของเธอหลังเสร็จกิจแล้ว เธอหันกลับมามองเงินที่วางอยู่บนเตียงนอน พร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น น้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้นที่เหมือนจะทำหน้าที่หนักก็ร่างกายเธอเสียอีก หญิงสาวนึกย้อนกลับไปในวัยเด็กอีกครั้ง เธอเคยมีความสุข มีครอบครัวเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ชีวิตกลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะในทุก ๆ เช้า จนกระทั่งพ่อของเธอเสียชวิตจากอุบัติเหตุถูก  รถชน ทำให้ครอบครัวของเธอเปลี่ยนไป แม่ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะฐานะที่ยากจน

ต่อมาแม่ของดาราได้มีสามีใหม่ ซึ่งก็คือพ่อเลี้ยงของเธอ เวลาแม่ของดาราไม่อยู่บ้าน พ่อเลี้ยงของเธอก็มักจะเข้ามาหา เขาพยายามล่วงเกิน และทำร้ายร่างกายเธอหลายครั้ง พร้อมกับข่มขู่เธอสารพัดว่าถ้าเอาเรื่องที่ถูกตนลวนลามไปฟ้องแม่ เขาจะทำร้ายเธอและแม่ของเธอด้วย นั่นยิ่งทำให้ดาราหวาดกลัว แรก ๆ เธอแค่ถูกลวนลาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปดูเหมือนพ่อเลี้ยงเธอจะไม่พอแค่นั้น เขาเริ่มทำรุนแรงกับเธอมากขึ้น และพยายามข่มขืนเธอทุกครั้งที่มีโอกาส เธอต้องทนกับความหวาดกลัว ระแวงว่าสักวันเธอคงไม่รอดจากเงื้อมมือเขาเป็นแน่ เธอจึงคิดที่จะหนีออกจากบ้าน เพราะคิดว่าถ้าอยู่ต่อไป ชีวิตเธอต้องพังแน่

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว คืนหนึ่งหลังจากคนในบ้านหลับหมดแล้ว เธอจึงค่อย ๆ ย่องออกมาจากบ้านพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบ เด็กสาวมุ่งหน้าไปขึ้นรถประจำทางเพื่อขึ้นรถไปยังกรุงเทพฯ เพราะหวังจะไปมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่านี้ โดยเธอใช้เงินเก็บที่ตั้งใจเก็บใส่กระปุกมาตั้งแต่เด็ก เพื่อหวังจะใช้เป็นทุนการศึกษาในชั้นเรียนที่สูงขึ้น แต่ตอนนี้กลับต้องใช้มันเป็นค่าเดินทางหนีออกจากบ้านของตนเอง

.
.
.

ผ่านมาหลายวันเด็กหญิงที่ตอนนี้ต้องใช้ชีวิตร่อนเร่ ไร้หนทาง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจออกจากบ้านนั้นเธอไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตจะยากลำบากขนาดนี้ เธอเดินอยู่ข้างถนนด้วยอาการอิดโรย เพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหลายวันแล้ว ขณะที่เธอกำลังนั่งพักอยู่ตรงป้ายรถเมล์ ก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณสามสิบปี   ได้นำอาหารมายื่นให้กับเธอ พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า  และบอกให้เธอกินเพราะดูท่าเธอจะหิวมาก

ดาราที่กำลังหิวจึงไม่รีรอ รีบรับอาหารนั้นมากินทันที

“ ค่อย ๆ กินก็ได้นะหนู ” หญิงคนนั้นกล่าว

ดาราที่ได้ยินดังนั้นจึงได้ค่อยๆ ตักอาหารเข้าปาก โดยไม่รู้เลยว่าหญิงที่พึ่งนำอาหารมาให้เธอกำลังจ้องมองเธอคล้ายกับกำลังสำรวจหาอะไรบางอย่างในตัวเธอ

“ อิ่มแล้วใช่มั้ย พี่ชื่อเริงนะ เรียกเจ้เริงก็ได้ แล้วนี่หลงทางหรอ เจ้ช่วยไปส่งที่บ้านให้เอามั้ย ” หญิงสาวกล่าว ดาราทำหน้าสลด พร้อมกลับตอบกลับไปว่า

“หนูไม่มีบ้านให้กลับแล้วค่ะ” หญิงสาวเมื่อได้ยินดังนั้นก็ครุ่นคิดสักครู่แล้วบอกให้ไปอาศัยอยู่กับเธอก่อน ด้านดาราที่ตอนนั้นยังเป็นเด็ก เธอนั่งเงียบ ท่าทางหวาดกลัวและกังวล หลังจากคิดทบทวนอยู่สักพัก   เลยตอบตกลงที่ เพราะคิดว่าชีวิตคงไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าที่เธอเคยเจอมาแล้ว ถ้าโชคชะตา จะเล่นตลกกับเธออีกเธอก็จะยอมรับกับทางที่เธอเลือกเอง