คลิปจากกล้องจุดตรวจจับความเร็วแสดงให้เห็นถึงถนนทางหลวงเส้นหนึ่งที่ไม่ค่อยมีรถผ่าน แต่รถเก๋งของสาวภารโรงคนนี้ขับตรงไป ก่อนจะเลี้ยวเข้าในซอยหนึ่งซึ่งมันไม่ใช่ทางกลับบ้านของเธอ ผู้กองเพชรกดหยุดวิดีโอก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วหยิบปากกาเมจิกขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดานไวท์บอร์ดแผ่นใหญ่
“นี่คือแผนที่ของโรงเรียน ส่วนซอยนั้นที่เธอเลี้ยวเข้ามีทางเชื่อมเข้ามาข้างหลังหลังโรงเรียน” เขาวาดมันลงไปอย่างคร่าวๆให้เห็นภาพ “และจุดนี้คือมุมอับที่ลุงยามให้ข้อมูลกับผมว่าเป็นพื้นที่เดียวที่กล้องวงจรปิดเข้าไปไม่ถึง เป็นไปได้ว่าคนร้ายจะขับเข้ามาฝั่งนี้..แล้วเดินเลียบไปตามหลังซอกตึก เพื่อที่จะมาโผล่ตรงนี้ตามจุดที่นัดกับนายสไปร์ทเอาไว้”
“เพราะงั้นคนร้ายก็แตะบัตรขับรถออกหลอกตาพวกเรา..”
“ใช่ แต่คนร้ายคงไม่รู้ว่ามีกล้องจับความเร็วติดอยู่… เดี๋ยวผมจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดยื่นออกหมายค้นให้เร็วที่สุด หมวดต่ายเป็นคนจัดการเอกสารคำร้องวันนี้ด้วยนะ พรุ่งนี้จะได้เตรียมบุกค้นหาหลักฐานในบ้านนั้นได้เลย”
“ได้ครับ/ค่ะ” สมาชิกทีมขานรับพร้อมกัน
“ว่าแต่ผู้กองสังเกตจากไหนครับว่าเป็นภารโรงคนนี้ ทั้งๆที่เธอไม่ได้มีพิรุธอะไรเลย” หมวดจ้อยถามอย่างกระสนจะรู้ เขายกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มหนึ่งอึกในระหว่างจ้องดูหลักฐานต่างๆอย่างไม่เชื่อตา
“นั่นสิคะ ให้บอกว่าเป็นแฟนของนายสไปร์ทนั่นยังดูน่าเชื่อกว่า”
“มันก็ค่อนข้างบังเอิญแหล่ะนะที่ผมกลับไปเช็คกล้องวงจรปิดมุมต่างๆช่วงเย็น จะดูว่ามีใครแอบเข้ามาข้างในหรือเปล่าแต่กลับเจอช็อตย่ามใบนี้พอดี.. เฮ้อ..” ผู้กองเพชรเผย เขาถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก
ในวันถัดมาเมื่อหมายศาลออก ตำรวจทีมสืบสวนทั้งสี่คนก็บุกไปที่บ้านพักของนางสาวจันทร์ ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนักเรียนมัธยมโดยทันที และก็เป็นอย่างที่พวกเขาคาดการณ์.. ภายในบ้านไม้หลังเล็กของเธอมียาเสพติดซ่อนอยู่เป็นจำนวนหนึ่งใต้ฟูกที่นอน รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ฆาตกรรมนักเรียนชายผู้เคราะห์ร้ายด้วย ซึ่งทั้งมีดเปื้อนเลือดและหินที่เอาไว้ทุบบริเวณท้ายทอยเหยื่อยังคงอยู่ในถุงผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ
นางสาวจันทร์พูดจาบ่ายเบี่ยงข้อกล่าวหาอยู่นานสองนานแต่เพราะหลักฐานนั้นมัดตัวอย่างชัดเจนว่าเธอเป็นฆาตกรจึงไม่อาจจะหาข้อปฏิเสธอะไรได้อีกต่อไป รวมทั้งเป็นเพราะถูกขู่จากพวกเขาด้วยว่าถ้าไม่ยอมรับจะโดนข้อหาหนักอาจถึงขั้นประหารชีวิต นางสาวจันทร์จึงสารภาพว่าที่เธอฆ่า เพราะเขารู้ตัวตนของเธอและจะเปิดเผยหากไม่ส่งยาให้เขาฟรี
“เขาจงใจจะแบล็กเมล์ฉัน.. เขาจงใจแบล็กเมล์ฉัน.. ฉันก็แค่..ปกป้องตัวเองเท่านั้น” เธอพูดด้วยรอยยิ้มอันแสนน่ากลัวก่อนจะทอดสายตามองเลขสามหลักปริศนาสีแดงบนผนังที่ถูกวาดโดยเลือดเหมือนกับวงกลมรอบศพของนายสไปร์ทอย่างเหม่อลอย ผู้กองเพชรรีบสั่งให้หมวดแช่มกับหมวดจ้อยพานางสาวจันทร์ขึ้นรถตำรวจก่อนที่เธอจะคลั่งไปกว่านี้
หลังจากที่ทุกคนยกเว้นเขาและหมวดต่ายออกไปหมด สายตาอันเฉียบแหลมนั่นก็หันกลับไปมองไปยังที่เดียวกับนางสาวจันทร์เคยมองเมื่อสักครู่
“หมวดว่าที่ผู้ต้องหาเอาเลือดของสไปร์ทไปวาดวงกลมรอบ มันจะเกี่ยวข้องกับเลขนี้หรือเปล่า”
“เกี่ยวสิคะผู้กอง.. 666.. มันคือเลขของซาตาน”
“ซาตานเหรอ….”
“นอกจากการฆ่าเพื่อปกป้องตัวเองแล้ว..
…ฉันว่าเธอคงตั้งใจเอาวิญญาณไปบูชาซาตานเช่นกัน”