ภาพวาดของผม : ดินสอสี

นิยายสั้นรักโรแมนติค (Romantic) นิยายสั้นแนวแฟนตาซี (Fantasy)

เราเดินออกจากห้างสรรพสินค้า เดินข้ามถนนเพื่อจะไปขึ้นรถอีกฝั่ง ทันใดนั้นก็มีรถคนหนึ่งพุ่งมาทางเราด้วยความเร็วสูง ผมหยุดชะงักแต่นารากลับไม่ได้มองแล้วเดินต่อไป รถคนนั้นยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“ว้าย!”

ชั่วขณะนั้นผมรีบคว้าตัวนารากลับมาที่ฝั่งเดิม ทันเวลาอย่างเฉียดฉิว เธอหลับตาปี๋อยู่ในอ้อมแขนของผม

“เกือบไปแล้ว” นาราค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองผม เราสบตากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายผละออก

“ไปกันเถอะ หลังจากนี้ก็เดินระวัง ๆ ด้วย”
.
.
.

เรากลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาใกล้ค่ำ เมื่อผมกลับเข้ามาในห้องก็อาบน้ำแล้วขึ้นไปนอนเล่นบนเตียง จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว

นาราเป็นแบบที่ผมวาดขึ้นมา เป็นหน้าตาของผู้หญิงที่ผมคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุด และผมไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะมีตัวตนจริง ดังนั้นการที่เธอได้เข้ามาแบ่งพื้นที่ส่วนตัวของผมไปแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงแบบที่ผมชอบ มันจะดีเหรอที่เรามาอยู่บ้านเดียวกันแบบนี้ ไม่แน่ว่าถ้าวันหนึ่งผมเกิดชอบเธอขึ้นมา มันคงจะยุ่งยากแน่ ๆ
.
.
.

ผมคิดไปคิดมาจนเวลาผ่านไปถึงกลางดึก เสียงเคาะประตูห้องนอนของผมดังขึ้น ผมลุกขึ้นไปเปิดประตู ในใจนึกบ่นอีกคนที่เคยบอกไว้แล้วว่าไม่ให้มารบกวนเวลานอน

“มีอะไร” ผมยืนพิงกรอบประตูมองคนที่หอบหมอนกับผ้าห่มมาด้วย

“คืนนี้ฉันขอนอนด้วยได้ไหม” นาราช้อนตาขึ้นมองผม ฟันขาวขบกัดริมฝีปากล่างแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจ

“ตลกแล้ว เธอจะมานอนกับฉันทำไม”

“ฉันกลัว”

“กลัว? กลัวอะไร ตอนนี้ที่บ้านฉันมีสิ่งที่น่าประหลาดที่สุดก็คือเธอ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวไปกว่านี้แล้ว”

“วันนี้ฉันเห็นภาพผีที่ห้าง มันติดตา ฉันนอนไม่หลับ” ภาพผี…เดาว่าคงจะเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่โฆษณาอยู่ตามป้ายในห้างล่ะมั้ง

“ก็ได้ แต่ฉันจะไม่ยอมนอนพื้นหรอกนะ”

ที่ผมพูดไปว่าจะไม่นอนพื้น คือจะสื่อว่าให้เธอนอนพื้นแทน ไม่ใช่มานอนบนเตียงกับผมแบบนี้!

ผมหมดคำจะพูด ได้แต่ข่มตาหลับ เลิกสนใจกลิ่นหอม ๆ จากตัวคนที่นอนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง
.
.
.

วันต่อมาผมพาเธอไปซื้อของสดที่ตลาดเนื่องจากของในบ้านเริ่มทยอยหมดแล้ว เธอเลือกซื้อของอย่างคล่องแคล่วจนผมอดชื่นชมอยู่ในใจไม่ได้ ผมเดินตามเธอที่จับจ่ายของในตลาดจนล้นมือ นาราแจกยิ้มหวานให้กับพ่อค้าแม่ขายทั่วตลาดจนผมนึกสงสัยว่าเธอไม่เมื่อยแก้มบ้างหรืออย่างไร
.
.
.

เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์

สองสัปดาห์
.
.
.

จนกระทั่งหนึ่งเดือน วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนพอดีที่นาราอาศัยอยู่ในบ้านของผม กิจวัตรประจำวันของเราไม่ค่อยมีอะไรนอกจากหาของอร่อย ๆ กินที่ร้านอาหารดัง เดินเล่นในสวนสาธารณะ จ่ายตลาด ดูหนัง วนไปแบบนี้เรื่อย ๆ

“เธอดื่มเบียร์ได้ไหม” ผมกลับเข้าบ้านในเวลาสองทุ่มเศษพร้อมกับถุงใส่เบียร์ห้าหกกระป๋อง เมื่อเย็นผมออกไปคุยงานกับลูกค้าที่ร้านกาแฟ ระหว่างกลับเลยแวะซื้อของที่มินิมาร์ทนิดหน่อยเลยได้เบียร์ติดมือมา