บทที่ 3
“เมย์ ทำอะไรอยู่ลูกออกมากินข้าวเย็นได้แล้ว” เสียงหวาน ๆ ของแม่ตะโกนเรียกให้ฉันลงไปกินข้าวซึ่งแม่ก็คือแม่มาเรียกตอนไหนไม่เรียกดันมาเรียกตอนที่กำลังเขียนให้นางเอกกับพระเอกจูจุ๊บกันซะได้
“เมย์ ลงมาได้แล้วข้าวจะเย็นแล้วนะลูก”
“ค่า แม่แปบนึงค่า”
.
.
.
“นั่งตรงนั้นเลย ตรงนี้พ่อเค้าจะนั่ง” แม่ฉันว่าก่อนจะหยิบแก้วน้ำที่รินน้ำไว้แล้วมาให้ฉัน
“อ้าว แล้วพ่อละทำไมมาช้าจัง”
“พ่อรดน้ำต้นไม้อยู่เดี๋ยวก็ตามมาเองแหละ พวกเรากินไปก่อนเลย” แม่ว่าแล้วลงมือตักกุ้งออกจากถ้วยต้มยำไปเคี้ยวกินหน้าตาเฉย
“โห แม่เล่นกินกุ้งก่อนเลยนะ”
“ก็เมย์มัวแต่เหม่อไง”
“เมย์ไม่ได้เหม่อ เมย์กำลังคิดเนื้อเรื่องนิยายที่เมย์เขียนอยู่ต่างหาก” ฉันว่าพร้อมเอือมมือไปตักแกงเขียวหวานมาราดใส่ข้าวสวย
“เขียนอีกแล้วเหรอแม่นักเขียนน้อย เนื้อเรื่องเป็นยังไงละหื่นกามอีกแล้วละสิ”
“ไม่ใช่สักหน่อย คราวนี้เมย์เขียนแนวแฟนตาซีโรแมนซ์เลยนะ เรื่องก็เป็นเกี่ยวกับนักเขียนสาวคนหนึ่งที่มีชีวิตจมไปกับการเขียนนิยายแต่แล้วค่ำคืนหนึ่งตัวร้ายที่เธอเขียนก็กลับกลายทะลุมิตินิยายมายืนเด่นเห็นเป็นเนื้อหนังคนที่โลกมนุษย์เป็นความรักกุ๊กกิ๊กใสใสระหว่างนักเขียนเพ้อฝันกับตัวร้ายที่น่ารังเกียจ” ฉันสาธยายให้แม่ฟังพลางเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ยไปด้วย
“บทดีนี่แต่จะเขียนดีไหมก็อีกเรื่อง”
“โห แม่อะเมย์เขียนดีอยู่แล้ว” ฉันพูดพร้อมบุ้ยปากไปมาเป็นจังหวะเดียวกันที่พ่อเดินเข้าบ้านมาพอดี
“คุยอะไรกันสองแม่ลูกแล้วดูน้องเมย์ ทำไมทำหน้าเป็นตูดแบบนั้นละ ขี้เหร่จริง ๆ เลย” พ่อว่าไปขำไปซึ่งนั่นยิ่งทำให้หน้าของฉันเป็นตูดยิ่งกว่าเดิม
“เมย์ก็ติดทำหน้าเป็นตูดมาจากพ่อนั่นแหละ เชอะ นี่พ่อคะเมย์จะเล่าให้ฟังเมย์คิดพล็อตนิยายเรื่องใหม่ได้แล้วน้า”
“อีกแล้วเหรอนักเขียนแล้วเรื่องเป็นไงละไม่ใช่ว่าหื่นกามนะ”
“รอบนี้คงไม่กาม เรื่องก็คือนักเขียนสาวคนหนึ่งที่มีชีวิตจมไปกับการเขียนนิยายแต่แล้วค่ำคืนหนึ่งตัวร้ายที่เธอเขียนก็กลับกลายทะลุมิตินิยายมา…”