ทีเด็ดปราบเปรต : ตรีเนตร

นิยายสั้นสยองขวัญ (Horror/ Chiller)

โดย : ตรีเนตร
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณปู่ของผมในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตยู่ ท่านได้เล่าให้ผมฟังย้อนหลังไปประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว บ้านที่ท่านอาศัยอยู่ใกล้กับวัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดเป็นที่กล่าวขานกันว่าเป็นวัดที่มีผีดุมากด้วยจนขึ้นชื่อ ชาวบ้านย่านนั้นมักจะถูกผีในวัดเล่นงานหลอกหลอน ก็นอนเป็นไข้หัวโกร๋นไปตามๆ กัน จนไม่มีใครกล้าเดินผ่านวัดแห่งนี้ในเวลากลางคืน

ความดุร้ายของบรรดาผีในวัดนี้ เป็นที่โจษขานของคนทั้งตำบลโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผีเปรตเล่าว่าเฮี้ยนนัก แต่สำหรับปู่เองถึงแม้ท่านจะอาศัยอยู่ใกล้กับวัดโดยมีถนนกั้นกลางเรียกได้ว่ามองเห็นกันได้ถนัดทุกวี่ทุกวัน ท่านกลับไม่เคยพบเห็นผีหรือเปรตเลยสักครั้ง

ในตอนดึกๆ ท่านมักจะมาอาบน้ำที่สระน้ำของวัดเป็นประจำสิ่งที่ท่านเห็นจนชินตาคือ ศาลาวัดหลังใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่บนลานกว้างอันสงบร่มรื่น มีต้นมะม่วงใหญ่ ต้นตาล ต้นมะพร้าว ยืนทะมึนอยู่ในเงามืด คุณปู่จึงไม่เชื่อตามที่ชาวบ้านเขากล่าวขานกัน ท่านได้แต่หัวเราะเมื่อได้ยินใคร ๆ พูดกันถึงเรื่อง “ผี” ภายในวัดแห่งนี้ แต่ท่านก็ไม่ได้กล่าวคำพูดใด ๆ เป็นเย้ยหยันผู้อื่น ท่านได้แต่บอกกับผู้คนว่าอยากจะเจอผีภายในวัดสักครั้ง จะได้รู้กันว่า ผีหรือคนจะแน่กว่ากัน

โดยปกติคุณปู่ของผมจะเป็นคนนักเลงคนหนึ่ง ท่านท่องเที่ยวมาหัวเห็ดเจ็ดย่านน้ำไม่เคยกลัวใคร มีดหรือไม้ เดี่ยวหรือหมู่ท่านสู้ไม่ถอยจัดได้ว่า เป็นคนจริงคนหนึ่งเหมือนกัน สำหรับ “ผี” ท่านว่าท่านมีวิธีที่จะปราบมัน ผู้ที่ได้ยินได้ฟัง ต่างก็คิดกันไปว่าท่านโม้ แต่ไม่กล้าพูดให้ท่านได้ยิน

นอกจากเรื่องชกต่อยแล้ว สิ่งที่เป็นของโปรดปรานคุณปู่อีกอย่างหนึ่งก็คือเหล้า ท่านเป็นนักดื่มระดับคอทองแดงเลยที่เดียว ท่านเป็นคนดื่มหนัก เมามายแทบทุกวัน และก็เพราะเหล้านี่แหละที่เป็นตัวทำให้คุณปูต้องพบเจอกับสิ่งที่อยากจะเจอ ส่วนใครจะอยู่หรือไปนั้นขอให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามกันต่อไป

มันเริ่มต้นขึ้นในตอนบ่ายวันหนึ่ง คุณปู่ได้เดินไปคุยธุระกับคนหนึ่งบ้านอยู่ที่ท้ายวัด เมื่อไปถึงเพื่อนก็ให้การต้อนรับอย่างดิบดี โดยได้จัดอาหารและเหล้ามาเลี้ยงต้อนรับคุยกันไปดื่มกันไป คุณปู่ท่านก็เริ่มติดลม แล้ววงเหล้ามาสิ้นสุดลงในตอนดึก เวลาอยู่ในราว 5 ทุ่ม เมื่อบอกกล่าวล่ำลาเพื่อนเสร็จ คุณท่านก็เดินแอ่นหน้าแอ่นหลังกลับมาพอมาถึงถนนเวลา 5 ทุ่ม ในหมู่ต่างจังหวัดนั้นก็นับว่าดึกโขอยู่ ทั่วบริเวณมืดมิดเพราะปราศจากแสงสี อีกทั้งยังเงียบสงบวังเวงชวนขนลุกอย่าบอกใคร

คุณปู่เดินมาตามทางเดินเล็ก ๆ ที่ขนาบไปด้วยต้นไม้ต้นไร่ที่ยืนทะมึนตลอดแนวสองข้างทาง อาศัยเพียงสลัวจากแสงจันทร์เป็นเครื่องนำทาง ต้นไม้ใหญ่น้อย ยืนสงบนิ่ง ทอดเงารูปร่างประหลาดไปตามพื้นดิน  ขณะที่คุณปู่พาร่างที่เมาแอ่นมาถึงยังบริเวณลานวัดอันมืดครึ้ม ศาลาหลังใหญ่ ตั้งเด่นอยู่กลางลานกว้างก่อนที่จะถึงท่าน้ำขณะนั้นเอง ก็ปรากฎกระแสลมพัดกระหน่ำขึ้นอย่างรุนแรง ต้นไม้ต้นไร่ถึงกับเอนลู่ไปตามทิศทางลมอย่างน่าอัศจรรย์ คุณปู่ถึงกับชะงักงันด้วยความประหลาดใจ ท่านสอดส่ายสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณด้วยความงุนงงต่อปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน

และแล้วก็เกิดเสียงแหลมเล็กกรีดก้องกังวานไปทั่วทั้งบรรยากาศ

กรี๊ด…ดด