พระอินทร์มีหน้าที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน
วันหนึ่งท่านคิดจะเลิกทำหน้าที่นี้ จึงคิดจะหาผู้ทำหน้าที่แทน ซึ่งต้องมีคุณธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่มีความโลภ
เมื่อไตร่ตรองดีแล้วพระอินทร์จึงได้ลงมายังโลก กลายร่างเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้วเข้าไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เพื่อแสวงหาบุคคลผู้มีจิตใจสูงมีคุณธรรมเหมาะแก่การรับตำแหน่ง
พระอินทร์แปลงได้ตรงไปหามัคนายกวัดที่เขาเล่าลือกันว่าเป็นผู้มีคุณธรรมสูง
เมื่อสนทนากันพอสมควรแล้ว พระอินทร์ก็ทดลองใจโดยเอานิ้วชี้ไปที่ก้อนหินเล็กๆ ก้อนหนึ่งให้กลายเป็นทองคำธรรมชาติ แล้วมอบให้แก่มัคนายกหลังจากนั้นก็เดินทางออกจากหมู่บ้านไป
.
.
.
วันต่อมา
ขณะที่พระอินทร์กำลังนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ท้ายหมู่บ้าน มัคนายกก็วิ่งกระหืดกระหอบมา
เพื่อขอให้พระอินทร์ช่วยเปลี่ยนทองคำธรรมชาติให้เป็นทองคำแท่ง เพื่อจะได้นำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองต่อไป
ทำให้พระอินทร์ รู้สึกผิดหวังยิ่งนัก
.
.
.
ต่อมา พระอินทร์ได้พบกับคนดีอีกมากมาย และได้เสกก้อนหินให้เป็นทองคำแก่ทุกคน
แต่ทุกรายก็จะขอก้อนใหญ่กว่าเดิมทั้งสิ้น
พระอินทร์คิดว่าในโลกนี้ คงไม่มีคนที่ทรงคุณธรรมแท้จริงแม้แต่คนเดียว
.
.
.
ก่อนจะกลับคืนสู่สวรรค์ พระอินทร์ได้แวะไปสนทนากับดาบสในอาศรมกลางป่า
ยิ่งสนทนาก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในความรู้และคุณธรรมของท่านดาบส
เพราะทุกถ้อยคำล้วนบ่งบอกถึงความไม่ต้องการสิ่งได้อีก
แต่เพื่อเป็นการทดลองให้แน่ใจ พระอินทร์จึงชี้นิ้วเสกก้อนหินให้เป็นทองคำแล้วยื่นให้ดาบส
“ข้าไม่ต้องการอะไรหรอก เพราะข้าสละทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว” ดาบสตอบอย่างไม่มีเยื่อใย
พระอินทร์ดีใจมาก เริ่มรู้สึกว่าตนเองได้พบคนที่ต้องการแล้ว
แต่เพื่อลองใจอีกครั้ง จึงได้เสกก้อนหินให้เป็นทองคำก้อนใหญ่กว่าเดิมมอบให้แก่ดาบส
ซึ่งดาบสก็ปฏิเสธเช่นเคย พระอินทร์จึงได้เสกก้อนหินเป็นทองคำอีกหลายครั้งแต่ดาบสก็ไม่รับ
“ถ้าอย่างนั้นท่านต้องการอะไร” พระอินทร์ถามขึ้นด้วยความพอใจ เพราะเชื่อว่าได้พบผู้ดำรงตำแหน่งแล้ว
ฝ่ายดาบสแสดงอาการอิดเอื้อนอยู่ครู่หนึ่ง ตาจ้องไปที่นิ้วชี้ของพระอินทร์ที่แปลงกายมาแล้วตอบว่า
“ข้าต้องการนิ้วมือของท่าน”
เมื่อพระอินทร์ได้ฟังคำตอบของดาบส จากที่เคยประทับใจก็กลายเป็นความผิดหวังมากกว่าทุกคนที่ผ่านมา
เพราะไม่คิดว่าดาบสจะเกิดความโลภได้มากขนาดนี้
จึงรีบกลับคืนสู่สวรรค์โดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย