Site icon เมจิคไทม์ มีเดีย | อ่านนิยายสั้นออนไลน์ฟรี

คู่หูที่รัก : มะลิ

โดย : ลูกกลอน
ลิขสิทธิ์ : Magic Time Media

สวัสดีค่ะฉันชื่อ น้ำฝน ฉันเป็นตำรวจแผนกอาชญากรรมอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง ต้องบอกก่อนว่า ตั้งแต่ยังเด็กความฝันของฉันก็คือ การเป็นตำรวจมาตลอด ฉันใฝ่ฝันที่จะได้กำจัดพวกคนชั่วในสังคมให้หมดไป และตั้งแต่ที่ฉันได้เริ่มอาชีพตำรวจ ฉันก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีเสมอมา ฉันจับคนร้ายได้มากมาย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังรู้สึกว่าฉันยังทำงานได้ไม่ดีนัก ตอนนั้นเองที่ฉันคิดที่อยากจะมีคู่หูในการทำงานขึ้นมา ฉันจึงได้ทำเรื่องขอไป

หลังจากฉันได้ทำเรื่องขอคู่หูใหม่ไปได้ไม่นาน ฉันก็ได้คู่หูอย่างที่ต้องการมา โดยคู่หูของฉันมีชื่อว่า เข้ม โดยเข้มเป็นตำรวจที่เพิ่งเข้ามารับราชการตำรวจได้ไม่นาน จึงอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมากนัก

เเละเรื่องนี้เองที่มักจะเป็นปัญหาในการทำงานของคู่เราเสมอ ด้วยความที่เข้มและฉันมักจะมีความเห็นไม่ตรงกันในหลายๆ เรื่อง ทำให้การทำงานขอเราล่าช้ายิ่งขึ้นไปอีก จนทำให้ฉันคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันทำงานคนเดียวโดยที่ไม่ต้องมีคู่หูเสียยังดีกว่า จนมาถึงเหตุการณ์นึงที่ทำให้ความคิดของฉันต้องเปลี่ยนไป

บ่ายวันหนึ่งหลังจากที่ฉันเพิ่งพักกลางวันเสร็จ ก็ได้รับแจ้งมาว่ามีการส่งยากันในเขตความดูเเลของฉัน ฉันรีบไปหาเข้ม เพื่อบอกเรื่องนี้และเดินทางไปสืบสวนเรื่องนี้ทันที ระหว่างทางที่เรากำลังไป ฉันและเข้มก็ได้ปรึกษากัน โดยก็เหมือนกับทุกทีค่ะที่ ความคิดเห็นของเราไม่ตรงกันอีกแล้ว โดยตอนนั้นฉันให้ความเห็นว่า เราควรที่จะรอดูสถานการณ์เสียก่อนแล้วค่อยลงมือจับพวกค้ายา แต่เข้มกลับมีความเห็นว่า เราควรไปจับพวกค้ายาเลยทันทีเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา

ตอนนั้นฉันและเข้มยังไม่ทันได้ตัดสินใจเลยว่าจะเอาวิธีไหน เมื่อไปถึงที่หมาย ฉันบอกเข้มว่า ให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่ตอนนั้นเข้มไม่ได้เชื่อฟังฉันแต่อย่างใด เขาลงจากรถและวิ่งเข้าไปจับพวกค้ายาทันที ถึงฉันจะโมโหที่เขาไม่เชื่อฟังฉันแต่ในครั้งนั้นเราก็จับพวกค้ายาได้ครบทุกคน จนฉันก็เริ่มคิดว่าบางทีความใจร้อนมุทะลุของเข้มก็มีประโยชน์เหมือนกัน หลังจากนั้นมาดูเหมือนว่าเข้มและฉันก็เริ่มที่จะทำงานได้อย่างเข้าขากันมากขึ้น

ไม่ทันไรก็มีคดีใหม่เข้ามา คดีนี้เป็นคดีลักพาตัว โดยคดีนี้มีความซับซ้อนมาก เพราะพวกคนร้ายทำงานกันเป็นกระบวนการ และมีหลายคน เมื่อรับคดีมา ฉันและเข้มก็เริ่มทำการสืบสวนทันที

“คดีนี้เป็นคดีใหญ่นะ เราต้องร่วมมือกันเพื่อจะได้ปิดคดีและจับผู้ร้ายมาเข้าคุกได้โดยเร็ว” ฉันบอกกับเข้มไป

“ผมก็เชื่อฟังคุณตลอดผู้หมวด มีครั้งไหนบ้างที่ผมจะขัดใจคุณ” เข้มตอบฉันกลับมา

“ทุกครั้งแหละ” ฉันพูด

โดยคืนนั้นทั้งฉันและเข้มอยู่ทำงานที่สถานีตำรวจกันจนดึกดื่น

“ดึกแล้วหมวดกลับไปนอกพักก่อนไหม” เข้มถามฉัน

“นอนได้ยังไงคดียังไปไม่ถึงไหนเลย” ฉันตอบ

“ถ้านั้นกินอะไรหน่อยละกันเดี๋ยวผมสั่งให้” พูดจบเข้มก็สั่งข้าวต้มเจ้าโปรดของฉันมาให้ทันที

“นี่นายรู้ได้ไงว่าฉันชอบกินร้านนี้”ฉันถามเข้มไป

“เราทำงานด้วยกันมานาน ทำไมเรื่องแค่นี้ผมจะไม่รู้หละ” เข้มตอบฉันพร้อมส่งยิ้ม

ลึกๆ คู่หูฉันก็ใส่ใจฉันเหมือนกันนะนี่ ฉันคิดในใจ หลังจากเรากินข้าวกันเรียบร้อยเราก็ทำงานกันต่อ สักพักนึง เราก็ทราบถึงที่กบดานของพวกคนร้าย ฉันและเข้มตกลงกันว่าเราจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยกันในวันพรุ่งนี้

และก็มาถึงวันที่ฉันและเข้มต้องไปสังเกตการณ์ที่ที่พวกคนร้ายกบดานอยู่ โดยเราจอดรถสังเกตการณ์อยู่ที่นั่นทั้งวัน กินก็กินในรถ นอนพักเราก็นอนในรถเหมือนกัน เมื่อเราอยู่สังเกตการณ์กันมาเป็นเวลานาน เข้มก็มองมาที่ฉันแล้วพูดว่า

“นอนพักสักงีบเถอะหมวด เดี่ยวผมรับช่วงต่อให้เอง”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันยังไหว” ฉันตอบเขาไป

“หมวดบอกว่าไม่อยากให้ผมขัดใจหมวดใช่ไหม ผมก็ไม่อยากให้หมวดขัดผมเหมือนกัน เพราะฉะนั้นพักสักหน่อยเถอะครับเชื่อผม” หลังจากเข้มพูดจบ ฉันก็ตัดสินใจงีบไปสักพัก

หลังจากที่ฉันพักไปได้ไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเข้มเอามือมาสะกิดฉันเบาๆ เพื่อเรียกให้ฉันมองออกไปข้างนอก ตอนนั้นเองที่ฉันเห็นไอพวกคนร้าย มันจับผู้หญิงสาววัยรุ่นมาเพิ่ม เมื่อฉันกำลังจะหันไปเพื่อจะบอกกับเข้มว่า ให้รอสักพักกำลังจะเรียกกำลังเสริม ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยสักคำ เข้มก็ลงจากรถ และเดินตามพวกคนร้ายไป ฉันจึงไม่มีทางเลือกและลงตามเข้มไปเพราะมีคนร้ายข้างในหลายคน

“รอฉันด้วย” ฉันกระซิบบอกเข้ม

แล้วเราทั้งสองคนก็ค่อยๆ เดินเข้าไปในโกดังของพวกคนร้ายอย่างเงียบๆ เมื่อเข้าไปฉันก็เจอกับห้องหลายห้อง โดยในแต่ละห้อง มีผู้หญิงสาวที่โดนพวกคนร้ายพวกนี้จับมาขังเอาไว้ ฉันรีบเดินไปปลดล็อคประตูเพื่อช่วยผู้หญิงพวกนั้นอย่างเงียบๆ และไม่ทันไรนั้นเองที่พวกคนร้ายก็มาเจอฉันและเข้มเข้า

พวกมันรีบวิ่งเข้ามาหาฉันและเข้มพร้อมอาวุธมีดและปืน มองไปฉันคิดว่าพวกมันน่าจะมีกันอยู่ 4 คน โชคดีค่ะ ที่เข้มเป็นตำรวจที่เก่งเรื่องการต่อสู้และใช้ปืนเป็นอย่างมาก ทั้งฉันและเข้มเราต่อสู้กับพวกคนร้าย จนพวกมันนอนสลบกันไปทุกคน เพราะโดนเข้มจัดการ

ฉันเเละเข้มเห็นว่าพวกนั้นไม่น่าจะลุกขึ้นมาสู้กับเราต่อได้ เราเลยไปช่วยผู้หญิงที่โดนจับมาต่อ

แต่ทันใดนั้นเองก็มีคนร้ายคนนึง หยิบปืนขึ้นมาและยิงตรงมาที่ฉัน ตอนนั้นฉันไม่ทันได้ตั้งตัว และคิดในใจว่าฉันต้องโดนยิงแน่ๆ แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเข้มดันวิ่งแล้วเอาตัวมารับกระสุนแทนฉัน เข้มโดนยิงเข้าที่ไหล่ซ้ายเต็มๆ ฉันรีบวิ่งเข้าไปยิงคนร้ายคนนั้น และช่วยเข้มทันที ฉันตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นมาก ฉันไม่คิดเลยว่าคู่หูของฉันคนนี้จะมารับกระสุนแทนฉัน โดยเข้มสลบไป และไม่นานกำลังเสริม ที่ฉันเรียกไปตั้งแต่ตอนแรกก็มาถึง ฉันรีบพาเข้มขึ้นรถฉุกเฉินไปโรงพยาบาลทันที ตอนนั้นเข้มเลือดไหลเยอะมาก แถมยังไม่ได้สติ จนฉันกลัวเหลือเกินว่ากระสุนจะไปโดนเส้นเลือดใหญ่ของเขารึป่าว
.
.
.

ไม่นานก็ไปถึงโรงพยาบาล คืนนั้นฉันอยู่เฝ้าคู่หูของฉันทั้งคืนด้วยความคิดที่ว่า เขาจะเอาตัวเข้ามารับกระสุนแทนฉันทำไม ฉันรู้สึกผิดที่ทำให้เข้าต้องมาโดนยิงแทนฉัน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เข้มก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน ฉันอยู่เฝ้าเขาทั้งคืนจนเขาฟื้น วันนั้นฉันลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมเห็น เข้มกำลังมองมาที่ฉัน

“ตื่นแล้วหรอหมวด” เขาถามฉันพร้อมส่งยิ้ม

“โทษทีมาเฝ้านายแต่ฉันกลับหลับซะเอง” ฉันพูด

เค้าส่งยิ้มมาให้ฉันอีกครั้ง โดยไม่ได้พูดอะไร

“แล้วนี่ นายยิ้มอะไรของนาย” ฉันถามเขา

“ผมโล่งใจหนะ ที่หมวดปลอดภัย” เขาพูด

“แล้วนายหละ เอาตัวมารับกระสุนแทนฉันทำไม มันอันตรายนายอาจตายได้เลยนะ” ฉันพูดเชิงดุเขาไป

“ผมไม่เป็นอะไรหรอก ผมทนได้แต่ถ้าหมวดเป็นคนโดนยิง ผมคงทนไม่ได้มากกว่า” ปฎิเสธไม่ได้ว่าตอนนั้น หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ฟังเขาพูด ฉันรีบตัดบทสนทนาทันทีเพราะหน้าของฉันมันเริ่มแดงแถมใจยังเต้นรัวๆ อีกด้วย

“หิวไหม” ฉันถามเปลี่ยนเรื่อง เขาได้ฟังก็หัวเราะขึ้นมาเล็กๆและพูดว่า

“ผมนึกว่าหมวดจะพูดอะไรซึ้งๆกลับมา แต่หมวดกลับถามผมว่าหิวไหมนี่นะ” เขาพูดพลางหัวเราะ

สักพักคุณหมอก็เดินเข้ามาในห้องและพูดว่า คุณต้องนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีกสักหน่อยนะครับ แล้วค่อยกลับไปทำงาน

“ให้ผมอยู่โรงพยาบาลคนเดียวหลายๆ วันผมก็เหงาแย่นะสิครับ” เข้มพูดพร้อมมองมาที่ฉัน

“ก็ให้แฟนคุณอยู่เป็นเพื่อนสิครับ” หมอพูดพลางมองฉันเช่นกัน

“ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ใช่แฟนเขาฉันเป็นคู่หูเขาค่ะ ฉันเป็นตำรวจ” ฉันรีบปฏิเสธหมอไปทันที

คุณจบหมอก็เดินออกไป และทิ้งให้ฉันอยู่กับเข้มแค่สองต่อสอง ตอนแรกสถานการณ์ไม่ได้อึดอัดอย่างนี้นะคะ แต่พอคุณหมอมาหาว่าฉันเป็นแฟนเขา มันทำให้ฉันรู้สึกเขิน บวกกับสิ่งที่เข้มพูดกับฉันก่อนหน้านี้ ยิ่งทำให้ฉันใจเต้นแรงเข้าไปใหญ่

“เดี๋ยวฉันขอออกไปสูดอากาศข้างนอกก่อนนะ” ฉันรีบขอตัวออกมาข้างนอกทันที

“ทำไม หมวดเขินผมหรอ” เข้มพูด

“เขินบ้าอะไรหละ ฉันแค่อึดอัดที่อยู่ในห้องนี้นานๆ เลยอยากออกไปสูดอากาศสักหน่อย” ฉันรีบบอกเขาไป

“เอาเถอะครับ รีบไปรีบมานะครับอย่าให้ผมอยู่คนเดียวนานๆ ผมเหงา” เขาพูดพลางส่งยิ้มมาที่ฉัน ตอนนั้นฉันรีบเดินออกมาจากห้องของเขาทันที
.
.
.

หลังจากนั้นเข้มก็พักฟื้นตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีกหลายวันโดย ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันที่นี่ ฉันก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับเข้ม ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็ทำงานด้วยกันมาสักพักแต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรจนมาวันนี้

“ผมรู้สึกคันหัวจัง ผมอยากสระผมสักหน่อย ไม่ได้สระมาหลายวันแล้ว” เข้มบอกฉัน

“นายก็ไปสระสิ มาบอกฉันทำไมเล่า” ฉันพูด

“ก็ผมเจ็บแขน เพราะรับกระสุนแทนหมวดไง เลยยกแขนไม่ขึ้น” เขาพูดพลางทำหน้าเหมือนจะทวงบุญคุณฉัน

“เเล้วนายจะให้ฉันช่วยนายยังไง” ฉันถามเขาไปด้วยความสงสัย

“หมวดสระผมให้หน่อยละกันนะ” เขาพูดพร้อมทำหน้าอ้อนฉัน

“ก็ได้ แต่ที่ฉันยอมทำให้เพราะนายช่วยฉันไว้หรอกนะ” ฉันพูดจบก็ค่อยๆ พยุงตัวเขาเดินไปที่ห้องน้ำ

โดยเมื่อมาถึงฉันก็ให้เข้มนั่งบนเก้าอี้ และเอนตัวมาที่ฉัน ฉันเริ่มสระผมให้เขาช้าๆ ระหว่างสระไปฉันก็ใจเต้นไป เพราะตัวเข้าและฉันชิดกันมากๆ แถมตอนที่ฉันสระผมให้เขา เขาก็มองฉันด้วยสายตาอ่อนโยนตลอดเวลา เมื่อสระผมให้เข้มเสร็จฉันก็ค่อยๆ พาเขาเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อมานั้งบนโซฟา และเอาผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้กับเขา ระหว่างที่ฉันกำลังเช็ดผมอยู่นั่น อยู่ดีๆ เข้มก็มาจับมือฉัน จนฉันต้องหยุดเช็ดผมทันที ตอนนั้นเองที่ทั้งฉันและเข้มเรามองหน้ากัน เเละเข้มก็เริ่มค่อยๆเอนตัวมาหาฉัน ทำท่าเหมือนจะจูบ แต่ฉันก็ขยับตัวออกห่างและรีบออกมาจากห้องทันที

ฉันเดินออกมาด้วยใจที่ว้าวุ่น และได้แต่คิดว่า เมื่อกี้นี้เขากำลังจะจูบฉันใช่ไหม หรือเขาคิดอะไรกับฉันกันแน่ ฉันอยู่นอกพักนึง เข้มก็เดินออกมาจากห้องพร้อมสายน้ำเกลือที่แขวนไว้อยู่ เขาเดินออกมาและทำท่าทางเหมือนกับเมื่อกี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น และเมื่อฉันเห็นเขาทำแบบนั้น ฉันจึงไม่ได้พูดถึงเรื่องเมื่อกี้เหมือนกัน และถามคำถามเขาแทนเพื่อแก้สถานการณ์ว่า

“นี่นายจะไปไหนหรอ”

“ผมอยู่ในห้องนาน อยากออกไปเดินเล่นสักหน่อย” เขาพูด

“นายเดินได้ปกติดีหนิ หายเจ็บแล้วหรอ” ฉันถามเขาไป

“ผมเจ็บไหล่ไม่ได้เจ็บขานะหมวด” เขาพูดพลางหัวเราะ

“แล้วถ้านั้นนายจะให้ฉันพยุงตัวนายเดินเข้าห้องน้ำทำไมหละ” ฉันถามเขาด้วยท่าทางหงุดหงิด

“ไปต่อไม่ถูกเลย” เขาพูด

หลังจากนั้นฉันเเละเขาก็ออกมาเดินรับลมกันในสวนของโรงพยาบาล ระหว่างที่เดินอยู่เข้มก็ถามฉันขึ้นมาว่า

“ทำไมหมวดถึงยังไม่มีแฟนหละ อายุก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว”

“จะให้ฉันเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟนกันละ วันๆ ฉันอยู่แต่โรงพักนายจะให้ฉันเอาคนร้ายมาเป็นแฟนหรือไง” ฉันพูดพลางหัวเราะ

“หมวดรู้ไหม ตั้งแต่ผมได้มาเป็นคู่หูกับหมวดผมประทับใจหมวดตลอด ที่หมวดมีความตั้งใจในการทำงานมาก หมวดทั้งเข้มแข็ง และเด็ดเดี่ยว แต่ก็เป็นคนใจดีในเวลาเดียวกัน จนผมรู้สึกอยากจะให้หมวดมีคนดูแลบ้าง” เข้มพูดพร้อมส่งสายตาอ่อนโยนมาให้ฉัน ฉันไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไปเพราะยังซึ้งอยู่กับสิ่งที่เขาพูด

“แต่ก็เถอะ ระหว่างที่หมวดยังไม่มีใครดูแล ให้ผมดูแลหมวดไปก่อนแล้วกันนะ”

“ดูแลตัวเองไปเถอะ” พูดจบทั้งฉันและเขาก็หัวเราะด้วยกันใหญ่
.
.
.

ต่อจากนั้นไม่นานเข้มก็หายดี และออกจากโรงพยาบาลได้ เข้มและฉันกลับมาทำงานเป็นคู่หูกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เรากลับสนิทและรู้ใจกันมากขึ้น เรามีความคิดอะไรหลายๆอย่างตรงกัน เราเข้าขากันดีมาก จนใครๆ ก็ต้องทัก ทำงานด้วยกันไปก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กันมากขึ้นทุกวันด้วยความใกล้ชิด และเมื่อดูเหมือนว่าอะไรๆ จะเริ่มไปได้ดี แต่ก็ดันมาเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นอีกครั้งเพราะ อยู่ดีๆ เข้มก็โดนย้ายไปอีกหน่วยหนึ่ง โดยฉันเองต้องเปลี่ยนคู่หูด้วย

เข้มโดนย้ายไปเป็นคู่หูของตำรวจอีกคนนึงและฉันก็ได้คู่หูคนใหม่มาเช่นกัน ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งสองคนก็ต้องแยกย้ายกัน ฉันและเข้มแทบจะไม่ค่อยได้เจอกันเลยในช่วงนั้น เพราะทั้งฉันและเขาก็งานยุ่ง ต้องบอกว่าคู่หูคนใหม่ของฉันทำงานดีนะคะ แต่แปลกที่ฉันกลับคิดถึงเข้มตลอด และอยากให้เข้มกลับมาทำงานกับฉันอีก
.
.
.

เย็นวันนึง ที่ฉันเลิกงานและกำลังจะกลับบ้าน ฉันก็ได้เจอกับเข้ม เขาเดินตรงมาที่ฉันและพูดกับฉันว่า

“เลิกงานแล้วเหรอหมวด”

“ใช่ ฉันกำลังจะกลับบ้านหนะ” ฉันตอบเขาไป

“ไม่ได้เจอกันนาน เราไปหาอะไรกินแล้วพูดคุยกันหน่อยไหม” เขาชวนฉัน

“ได้สิ นายอยากกินอะไรหละ” ฉันถาม

“เอาเป็นข้าวต้มเจ้าโปรดหมวดแล้วกัน เพราะตั้งแต่ผมไม่ได้เป็นคู่หูหมวดแล้ว ผมก็ไม่ได้กินเลย”

“ได้สิ ไปกันเถอะ” ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มให้เขา

เราเดินทางไปร้านข้าวต้มทันที เมื่อมาถึงร้าน ฉันแทบไม่ต้องสั่งอะไรเลย เพราะเข้มเขาสั่งให้ฉันทั้งหมด แล้วอาหารทุกอย่างที่เขาสั่งก็เป็นของโปรดที่ฉันชอบทั้งนั้น

“นี่นายจำได้หมดเลยหรอ ว่าฉันชอบอะไรบ้าง” ฉันถามเขา

“จำได้สิ ก็หมวดเป็นคู่หูคนโปรดของผมนะ” ฟังเขาพูดจบยิ้มฉันก็อดที่จะยิ้มตามไปไม่ได้

เรากินข้าว และพูดคุยกันนาน จนฉันรู้สึกเหมือนเมื่อก่อน ตอนที่ฉันและเขาเป็นคู่หูกัน โดยก่อนกลับเขาก็พูดกับฉันว่า

“ผมไม่รู้นะว่าตั้งแต่ผมต้องไปทำงานที่หน่วยอื่น หมวดจะคิดถึงผมบ้างไหม แต่ผมอยากจะบอกว่าผมคิดถึงหมวด และห่วงหมวดตลอดว่า หมวดจะทำงานหนักจนไม่ได้นอนอีกหรือป่าว หมวดกินอะไรบ้างหรือยัง จนหลายๆครั้ง ที่ผมต้องแอบซื้อกาแฟและขนมไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานหมวพ” เขาพูดจบฉันก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่า หลายครั้งที่ฉันกลับมาที่โต๊ะก็จะเจอกับกาแฟและขนมวางไว้อยู่บ่อยๆ แต่ตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ ฉันเลยถามเขากลับว่า

“นายเองหรอ ที่เอากาแฟมาวางไว้ที่โต๊ะฉัน นั้นไหนๆ นายก็พูดมาขนาดนี้แล้วฉันขอถามนายหน่อยละกันว่า ที่นายทำไปทั้งหมดนายคิดอะไรกับฉันบ้างหรือป่าว” ฉันถามเขาไป

“นี่หมวดไม่รู้จริงๆหรอ ว่าผมคิดยังไง หมวดคิดว่าผู้ชายจะทำเรื่องแบบนี้ให้ผู้หญิงคนไหนไหม ถ้าไม่ได้ชอบ” ฟังเขาพูดหัวใจฉันก็เริ่มเต้นแรงอีกครั้ง

“ผมรู้ว่าตอนที่เราอยู่ด้วยกัน หมวดก็มีความรู้สึกดีๆเหมือนผม แต่ตอนนี้เราเริ่มห่างกัน ผมไม่รู้จริงๆว่าหมวดยังรู้สึกแบบนั้นกับผมอยู่ไหม” เขาถามพร้อมมองหน้าฉัน

และตอนนั้นเองที่ฉันเห็นว่าไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันขอพูดความรู้สึกทั้งหมดที่มีออกไปเลยเเล้วกัน

“ฉันก็รู้สึกแบบนายแหละ ฉันรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่มีนายอยู่ด้วย มันทั้งรู้สึกดีและสบายใจแบบที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน และฉันก็เศร้ามากตอนที่นายกับฉันต้องห่างกัน” ฉันพูดพร้อมน้ำตาที่กำลังจะไหล

ตอนนั้นที่เข้มได้ฟังฉันพูดจบ เขาก็ดึงตัวฉันเข้าไปกอดทันทีและพูดว่า

“งานทำให้เราต้องห่างกัน แต่ผมไม่อยากจะห่างกับหมวดอีกแล้ว คบกับผมนะ”

ตอนนั้นเองที่ฉันไม่รอช้า และตอบตกลงไปทันที

หลังจากคืนนั้นทั้งฉันเเละเข้มเราก็เริ่มคบกันอย่างจริงจัง เราเข้ากันมาก จนกลายเป็นคู่รักที่ใครๆ ในสถานีตำรวจก็ต้องอิจฉาเลยก็ว่าได้ ใครจะคิดกันหละคะว่า คู่หูใจร้อนของฉันในวันนั้น จะกลายเป็นแฟนที่แสนน่ารักของฉันในวันนี้

 

Exit mobile version