ความอ่อนแอไม่ได้มีทั้งวัน(ทุกวัน) : ญะญ๋า

นิยายสั้นแนวชีวิต ดราม่า (Drama)

เธอบอกกับความจริงเสียงอ่อน  แล้วหันกลับไปล้มตัวลงนอนกับที่นอน  น้ำตาได้เหือดแห้งไปบ้างแล้ว  และใจเธอก็สงบขึ้นมาก  เนื้อร้องจากบทเพลงท่อนหนึ่งดังแทรกเข้ามาในความนิ่งสงบของเธอ

รู้ไว้เถอะว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว

ทุ่มเททุกอย่างให้ไป

แต่ไม่มีอะไรให้เหลือเลย

และตั้งแต่วันนี้จะไม่มีใครแล้ว

เหลือเพียงตัวเองที่เจ็บปวดคนเดียว

เจ็บก็ต้องจำไว้

แต่ก็แค่จำไว้

ถึงแล้วเวลาที่เธอต้องยอมรับ

ว่าคนที่เขาวาดไว้ไม่ใช่เธอ……

เธอหลับตาลง  ในใจอยากหลับตาไปตลอดกาล   ตลอดไป….. และหากจะต้องลืมตาตื่นขึ้นมาใหม่อีกครั้งเธอปรารถนาขอให้พบเจอแต่สิ่งใหม่  สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนที่เคยเป็นมา…

“ม่าน   ม่าน  เปิดประตูได้ไหม”

“ม่าน  ม่านอยู่หรือเปล่า”

เธอลืมตาตื่นขึ้นมา  เสียงเรียกนั้นคือเสียงของก้องเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกัน  เพื่อนคนขี้เล่นและกำลังตกงานของเธอนั่นเอง

เธอลุกเดินไปเปิดประตู

“ฉันโทรไปที่บริษัท  เขาบอกว่าเธอไม่ไปทำงาน…. วันนี้ฉันกับน้าคำจะไปรับแตงโมที่บ้านซำจำปาแล้วเลยไปส่งที่ตลาดขอนแก่น เธอไปกับฉันนะ  ไปท่องทะเลภูเขาเธอชอบ ไปด้วยกันนะ”  ก้องชวน  ท่าทางไม่สนใจสีหน้าและอาการของเธอ

“ไม่เอา    อยากนอน…..”

เธอว่าพลางหันกลับ  แต่คนชวนไม่ยอมเขาคว้าแขนเธอไว้

แล้วจูงออกไปจากห้อง  ปิดประตูล็อค  จูงเธอลงไปข้างล่างก้องทำท่าให้เธอก้าวขึ้นรถ

ม่านทำตามเขาอย่างว่าง่าย ในหัวคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น

รถกระบะสีทึมวิ่งออกจากตัวจังหวัดมุ่งหน้าสู่ต่างอำเภอ  ระหว่างทางจากถนนใหญ่ไปสู่หมู่บ้านซำจำปาคือภูเขาสูงต่ำสลับกัน

สองหนุ่มสาวยืนเกาะเหล็กขอบรถกระบะ หลังต้านแรงลมอย่าเงียบเทียบ เหมือนต่างคนต่างยืนโดดเดี่ยวบนโลก

“อกหักเหรอ” ก้องเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มเสียง  แต่เธอได้ยิน

รถชะลอความเร็วเมื่อวิ่งเลาะลัดเชิงเขา

“ฉันเป็นคนไม่น่ารักใช่ไหมก้อง” ม่านถาม ตามองพื้นที่โล่งกว้างไกลทอดยาวสุดตาเบื้องล่าง

“เธอเป็นคนน่ารักถ้าผู้ชายคนไหนได้เธอเป็นแฟน ผู้ชายทั้งโลกต้องอิจฉาเขาแน่ๆ แม้แต่ฉันเองก็เถอะ”

“แต่เขาไปจากฉันแล้ว”

คนฟังเงียบชั่วครู่ คิดถึงหน้าไอ้รูปหล่อขี้เก๊กที่เธอบอกว่าคือแฟนของเธอคนนั้น  เขารู้ความเป็นมาของไอ้หมอนั่นดี

“ไปก็ไปสิ  ไปง้อไอ้ผู้ชายแก่เห็นแก่ตัวแบบนั้น  เขาไม่เหมาะกับเธอหรอก”

เห็นแก่ตัว….ใช่  เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว

ม่านยิ้มออกมากับความจริงข้อนี้ที่เธอเพิ่งยอมรับได้

“โน้น ๆ รถจะลงเขาแล้ว ม่านเตรียมตัวนะ ยกมือขึ้นไปให้สุดแขนๆ  แล้วตะโกนออกมาให้ดังสุดๆไปเล๊ย”

ก้องทั้งกระโดดทั้งชี้ให้เธอดูทางข้างหน้าอย่างตื่นเต้นดีใจ เหมือนเด็กกำลังจะได้ของเล่นชิ้นโปรด

รถกระบะสีทึมประคองตัวลงสู่หุบเขาเบื้องล่างอย่างแรงและรวดเร็ว  ความรู้สึกของคนบนรถเหมือนกำลังโรยตัวลงจากฟ้าสู่โลกใบใหม่บนพื้นดินกว้างกว่ากว้างเบื้องล่าง

“สนุกจังโว้ย…….” ก้องตะโกนออกมาอย่างนั้น

“สนุกจังเล๊ย…….” ม่านชูมือขึ้นร้องตะโกนออกมาสุดเสียงเช่นกัน  ปลดปล่อยความทุกข์  ความอ่อนแอ  ความเศร้า  ความทรมานใจที่ทนเก็บไว้ ปล่อยพวกมันให้หลุดลอยไปกับสายลมเย็นที่พัดมาปะทะ   ปลดปล่อยมันไปกับความกับเวลาที่หมุนผ่านไปอย่างสม่ำเสมอนั่น

รถเคลื่อนตัวลงสู่พื้นราบและแรงลมก็สงบลง  สองเพื่อนหนุ่มสาวหันมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาด้วยกันอย่างมีความสุข

ความฝันความหวังที่เคยสุดสวยของม่านยังนอนแน่นิ่ง กำลังใจอันน้อยนิดของเธอเอื้อมมือไปสัมผัสมัน กระซิบถามมันแผ่วเบา

“เธอยังอยู่ใช่ไหม เธอไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน”

“ฉันยังอยู่กับเธอเสมอว่าแต่เธอเถอะพร้อมจะไปเมื่อไหร่  ถ้าเธอพร้อมฉันก็พร้อมจะลุกขึ้นเพื่อเธอ” ความฝันบอกกับเธอ

“ฉันไม่มีวันทิ้งเธอไปหรอก  จะไม่ไปไหนไม่ว่าจะอยู่จะตายอย่างไรฉันจะยังอยู่กับเธอ…”   ความฝันย้ำกับเธอ

น้ำตาของความตื้นตันใจ ซึมออกมาจากขอบตาทั้งสองข้างแก้มของม่าน

“ใช่  ถึงไม่มีเขา  แต่เธอก็ยังมีความฝันมีความหวังที่ไม่มีวันทิ้งเธอไปไหน  เธอต้องเข้มแข็งเพื่อฝัน เพื่อวันข้างหน้าของตัวเอง”\