หลวงตาไม่ลืมที่จะให้เดือนอุ้มเสื่อมาด้วย เดือนกอดเสื่อแน่นตลอดทาง และนำทางโดยการชี้ทาง รถ 2 ขับตามกันไปตามจุดที่เดือนชี้ เมื่อถึงจุดหมาย เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เล็กๆที่อยู่ในจังหวัดระยอง
เดือนวิ่งตรงเข้าไปกอดหญิงวัยกลางคนที่กำลังตากผ้าอยู่หน้บ้านและเอ่ยขึ้นประหนึ่งคนรู้จักกันมานาน ”แม่”
หญิงคนที่เดือนวิ่งเข้าหามีทีท่าตกใจที่อยู่ๆ ก็มีคนวิ่งมากอดและเรียกตัวเองว่าแม่ พร้อมดันเดือนออก
”หนูมาหาใคร?”
”แม่นี่ ษา เอง” หญิงคนดังกล่าวมีท่าทีประหลาดใจ และมองเดือนด้วยความสงสัยและเป็นห่วง
”หลงทางเหรอลูก” นางถามอีกครั้งเพราะไม่คุ้นหน้า
”แม่ ษาเองแม่” เดือนร้องไห้และพยายามที่จะเข้ากอดหญิงที่ตนเรียกว่าแม่ให้ได้ นางยูรที่ยืนดูตลอดจึงเดินเข้าไปทักทาย
”สวัสดีจ๊ะ นี่บ้านมาริษา ใช่ไหม”
”ใช่ค่ะ นี่ใครค่ะ” สีหน้าแปลกใจเอ่ยถามพร้อมกับกวาดตามองบุคคลที่มาเยือน
นางยูรตัดสินใจบอกเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผู้ที่เดือนเรียกว่าแม่ถึงกับปล่อยโฮ โผล่เข้ากอดเดือนและเชิญให้ทุกคนเข้าไปนั่งในบ้าน
ทันทีที่เข้าไปในบ้านหมูรู้สึกขนลุกที่หัว และเมื่อได้เห็นรูปเด็กสาว ที่ชื่อมาริษา ชาตะ มรณะ ติดอยู่ที่ข้างฝาบ้าน แม่ของมาริษาเริ่มเล่าถึงเรื่องราวสลดของลูกสาว
”ษาตายได้ 4 ปีแล้ว ตนเองไม่มีเงินนิมนต์พระไปทำพิธีเชิญวิญญาณ ไม่คิดว่าลูกสาวจะต้องเร่ร่อนแบบนี้…” ตลอดเวลาที่เล่า ก็กอดเดือนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
”รอแม่หรอลูก ขอโทษนะลูก” ทั้งสองกอดกันร้องไห้ ป้ายูร อาสาจะช่วยค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อให้ดวงวิญญาณของมาริษาไปสู่สุขติ